สุราษฎร์ธานี -ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุ ประชาชนยังขาดวุฒิภาวะทางการเมือง ส่งผลให้ประชาชนขาดความสามัคคี และมุ่งเอาชนะคะคานกัน พร้อมชี้ประชาชนยังไม่เข้าใจการเมืองภาคประชาชนน้อย
นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนภายในประเทศขาดวุฒิภาวะทางการเมืองสูง เช่น เมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง รับไม่ได้กับผลที่ออกมา ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าเลือกตั้งแพ้คนไม่ยอมแพ้ และผู้ไม่ได้รับการเลือกตั้งมีการดำเนินการในลักษณะการใส่ไข่ ปัดแข้งปัดขา ทำให้บ้านเมืองที่เคยรักใคร่สามัคคีแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่าย
ทั้งนี้ ยังเห็นว่า ยังต้องมีการฝึกให้ประชาชนเข้าใจประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนการเล่นกีฬาที่ต้องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการที่ประชาชนต้องติดตามตรวจสอบการทำงานของผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศด้วย
“ความคิดเห็นทางการเมือง ถ้าเราขาดวุฒิภาวะทางการเมืองแล้ว เราไปทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย โดยไม่ฟังเหตุผลจะเอาชนะคะคานกัน โดยไม่ฟังเหตุผลเนี่ย แม้แต่ในครอบครัวเดียวกันก็ยังทะเลาะกันเลย ขนาดคนในครอบครัวยังทะเลาะ แล้วนับประสาอะไรที่คนต่างครอบครัวจะไม่ทะเลาะกันเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าประเทศไทยเรายังขาดวุฒิภาวะ พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดวุฒิภาวะทางการเมืองสูง เลือกตั้งแพ้คนไม่ยอมแพ้ แพ้ในการเลือกตั้งลงคะแนนเสียง แต่คนไม่ยอมแพ้ คนที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งไปก็จะมีการคอยเลื่อยขา ใส่ไข่ ปัดแข้ง ปัดขาไม่ให้ความร่วมมือ บ้านเมืองที่เคยรักใคร่สามัคคี ก็แตกเป็นสองก๊กสามก๊กขึ้นอยู่กับว่าผู้สมัครเยอะไหม ถ้าสมัครเยอะก็แตกเป็นหลายก๊ก ถ้าสมัครสองคนก็แตกเป็นสองก๊ก ธรรมชาติมันก็จะเป็นอย่างนี้ เพราะว่าเราไม่ได้ฝึกคนของเราให้มีความเข้าใจประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานอย่างแท้จริง
นายประชา กล่าวต่อไปว่า การต่อสู้ทางการเมืองของไทยค่อนข้างรุนแรง เช่น การใช้เงินซื้อเสียงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลเสียและไม่มีนักการเมืองคนไหนที่ซื้อเสียง แล้วไม่ถอนทุนคืน ซึ่งถ้าเราปล่อยให้ปัญหานี้เป็นโครงสร้างของการเมืองท้องถิ่นอยู่ มันก็จะเป็นอันตรายแล้วก็มีผลกระทบต่อปัญหาการเลือกตั้งการเมืองระดับชาติเช่นกัน ทุกวันนี้ที่การเมืองระดับชาติมันล้มลุกคลุกคลานอยู่ตลอดเวลาเดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวนั่งเดี๋ยวลุก เพราะเราอ้างอย่างเดียวว่าพอประชาชนลงหีบบัตรเลือกตั้งประกาศผลแล้วถือว่าจบแล้ว อย่างอื่นไม่สน สนแต่ตรงลงหีบบัตรเท่านั้นแหละอันนี้เป็นความคิดที่ผิดมากเลยการกาลงหีบบัตรใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีแต่ว่าการเมืองภาคประชาชนสำคัญ
“การเมืองภาคประชาชน หมายถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน ทุกแห่ง ไม่ใช่ว่าเลือกตั้งเสร็จแล้วท่านก็ปล่อยเลยตามเลยไม่มีการติดตาม คนที่เราเลือกตั้งนี้ไม่ใช่ถ้าเราไปดูโครงสร้างการมืองในประเทศที่มีประชาธิปไตยเข้มแข็งแล้ว อย่างทั้งยุโรปและอเมริกา พอเขาเลือกตั้งไปเสร็จแล้วปุ๊บ เขามีการติดตามพฤติกรรมการทำงานผู้แทนที่เขาเลือกไปอย่างละเอียดยิบเลย นี่ที่เรียกว่าการเมืองภาคประชาชน แต่ประเทศไทยเราต้องยอมรับว่าการเมืองภาคประชาชนเรายังอ่อนยังด้อยมาก ซ้ำร้ายเรายังไปโกหกประชาชนระดับท้องถิ่น อบต. หรือเทศบาลแค่ประชาชนขึ้นมาสอบถามรายละเอียดโครงการต่างๆ เจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นยังไปกีดกันว่าไม่ใช่หน้าที่ของประชาชนเป็นความลับของทางราชการ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาว่า ชาวสุราษฎร์ธานีส่วนใหญ่ร้อยละ 99 ไม่มีใครสวมเสื้อแดงไปร่วมชุมนุมด้วย ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ทำให้ต้องยกเลิกการประชุมอาเซียน +3 +6 ส่งผลกระทบเสียหายต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องยืดระยะเวลาการประชุมออกไป
นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนภายในประเทศขาดวุฒิภาวะทางการเมืองสูง เช่น เมื่อมีการเลือกตั้ง ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง รับไม่ได้กับผลที่ออกมา ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าเลือกตั้งแพ้คนไม่ยอมแพ้ และผู้ไม่ได้รับการเลือกตั้งมีการดำเนินการในลักษณะการใส่ไข่ ปัดแข้งปัดขา ทำให้บ้านเมืองที่เคยรักใคร่สามัคคีแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่าย
ทั้งนี้ ยังเห็นว่า ยังต้องมีการฝึกให้ประชาชนเข้าใจประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานอย่างแท้จริง เปรียบเสมือนการเล่นกีฬาที่ต้องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการที่ประชาชนต้องติดตามตรวจสอบการทำงานของผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศด้วย
“ความคิดเห็นทางการเมือง ถ้าเราขาดวุฒิภาวะทางการเมืองแล้ว เราไปทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย โดยไม่ฟังเหตุผลจะเอาชนะคะคานกัน โดยไม่ฟังเหตุผลเนี่ย แม้แต่ในครอบครัวเดียวกันก็ยังทะเลาะกันเลย ขนาดคนในครอบครัวยังทะเลาะ แล้วนับประสาอะไรที่คนต่างครอบครัวจะไม่ทะเลาะกันเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าประเทศไทยเรายังขาดวุฒิภาวะ พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดวุฒิภาวะทางการเมืองสูง เลือกตั้งแพ้คนไม่ยอมแพ้ แพ้ในการเลือกตั้งลงคะแนนเสียง แต่คนไม่ยอมแพ้ คนที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งไปก็จะมีการคอยเลื่อยขา ใส่ไข่ ปัดแข้ง ปัดขาไม่ให้ความร่วมมือ บ้านเมืองที่เคยรักใคร่สามัคคี ก็แตกเป็นสองก๊กสามก๊กขึ้นอยู่กับว่าผู้สมัครเยอะไหม ถ้าสมัครเยอะก็แตกเป็นหลายก๊ก ถ้าสมัครสองคนก็แตกเป็นสองก๊ก ธรรมชาติมันก็จะเป็นอย่างนี้ เพราะว่าเราไม่ได้ฝึกคนของเราให้มีความเข้าใจประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานอย่างแท้จริง
นายประชา กล่าวต่อไปว่า การต่อสู้ทางการเมืองของไทยค่อนข้างรุนแรง เช่น การใช้เงินซื้อเสียงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลเสียและไม่มีนักการเมืองคนไหนที่ซื้อเสียง แล้วไม่ถอนทุนคืน ซึ่งถ้าเราปล่อยให้ปัญหานี้เป็นโครงสร้างของการเมืองท้องถิ่นอยู่ มันก็จะเป็นอันตรายแล้วก็มีผลกระทบต่อปัญหาการเลือกตั้งการเมืองระดับชาติเช่นกัน ทุกวันนี้ที่การเมืองระดับชาติมันล้มลุกคลุกคลานอยู่ตลอดเวลาเดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่ง เดี๋ยวนั่งเดี๋ยวลุก เพราะเราอ้างอย่างเดียวว่าพอประชาชนลงหีบบัตรเลือกตั้งประกาศผลแล้วถือว่าจบแล้ว อย่างอื่นไม่สน สนแต่ตรงลงหีบบัตรเท่านั้นแหละอันนี้เป็นความคิดที่ผิดมากเลยการกาลงหีบบัตรใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีแต่ว่าการเมืองภาคประชาชนสำคัญ
“การเมืองภาคประชาชน หมายถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน ทุกแห่ง ไม่ใช่ว่าเลือกตั้งเสร็จแล้วท่านก็ปล่อยเลยตามเลยไม่มีการติดตาม คนที่เราเลือกตั้งนี้ไม่ใช่ถ้าเราไปดูโครงสร้างการมืองในประเทศที่มีประชาธิปไตยเข้มแข็งแล้ว อย่างทั้งยุโรปและอเมริกา พอเขาเลือกตั้งไปเสร็จแล้วปุ๊บ เขามีการติดตามพฤติกรรมการทำงานผู้แทนที่เขาเลือกไปอย่างละเอียดยิบเลย นี่ที่เรียกว่าการเมืองภาคประชาชน แต่ประเทศไทยเราต้องยอมรับว่าการเมืองภาคประชาชนเรายังอ่อนยังด้อยมาก ซ้ำร้ายเรายังไปโกหกประชาชนระดับท้องถิ่น อบต. หรือเทศบาลแค่ประชาชนขึ้นมาสอบถามรายละเอียดโครงการต่างๆ เจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นยังไปกีดกันว่าไม่ใช่หน้าที่ของประชาชนเป็นความลับของทางราชการ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาว่า ชาวสุราษฎร์ธานีส่วนใหญ่ร้อยละ 99 ไม่มีใครสวมเสื้อแดงไปร่วมชุมนุมด้วย ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ทำให้ต้องยกเลิกการประชุมอาเซียน +3 +6 ส่งผลกระทบเสียหายต่อประเทศชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องยืดระยะเวลาการประชุมออกไป
