สตูล – คราบน้ำมันเตาที่รั่วจากซากเรืออับปางลง กว่า 3 ปีที่ผ่านมาได้ขยายวงกว้างออกกว่า 2 กม. อาจกระทบต่อการท่องเทียว และธรรมชาติใต้น้ำ และบริเวณเกาะดังกล่าวซึ่งมีปะการังและสัตว์น้ำอาศัยอยู่เสียหายไปด้วย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล ไม่มีงบประมาณในการแก้ไข
วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดสตูลหลังได้รับรายงานพบคราบน้ำมันเตาลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ และกระจายตัวติดบริเวณชายหาดเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ขยายวงกว้างขึ้นตามกระแสน้ำ นายสุกิจ รัตนวิบูลย์ ผู้อำนวยการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล กล่าวว่า จากซากเรือปลาป่นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น ในปีนี้พบมีน้ำมันลอยขึ้นมาจากรอยรั่วของเรือที่อับปางลง และไม่ทราบว่าน้ำมันมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน
จึงมีการประสานไปยังกองเรือภาค 3 จ.ภูเก็ต เพื่อขอนักประดาน้ำลงมาสำรวจที่บริเวณน้ำมันรั่วซึมว่ามีมากน้อยแค่ไหน และได้ประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษ รวมถึงบริษัท อีโคมารีน จำกัด เข้ามาสำรวจคราบน้ำมันดังกล่าวเพื่อดำเนินการให้หมดไป ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่แต่ติดอยู่ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล ไม่มีงบประมาณ ดังนั้น จึงจัดของบประมาณจากกระทรวงให้ทางกระทรวงพิจารณาอนุมัติงบประมาณอยู่
แต่ขณะนี้คราบน้ำมันได้ขยายวงกว้างแล้วกว่า 2 กิโลเมตร บริเวณอ่านประมง หากลมเปลี่ยนทิศจะทำให้ขยายวงกว้างขึ้นอีก เพราะฉะนั้นควรรีบดำเนินการไม่ให้ขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้หากปริมาณคราบน้ำมันขยายวงกว้างในเวลานานๆ จะมีผลกระทบต่อธรรมชาติใต้น้ำ และบริเวณเกาะดังกล่าวซึ่งมีปะการังและสัตว์น้ำอาศัยอยู่เสียหายไปด้วย
ขณะนี้ นายสุกิจ รัตนวิบูลย์ ผู้อำนวยการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล ได้ส่งเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล ร่วมกับบริษัท อีโคมารีน ทหารเรือกองเรือตรวจอ่าว นำเรือ ต.220 ออกสำรวจบริเวณจุดที่น้ำมันลอยขึ้นมาซึ่งห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 460 หลา พร้อมลงสำรวจคราบน้ำมันที่ติดอยู่บริเวณชายหาดเกาะหลีเป๊ะ
หลังพบว่ามีคราบน้ำมันขยายวงกว้างตามทิศทางของกระแสน้ำ และน้ำมันได้ลอยเข้าฝั่งบริเวณชายหาดอ่าวประมงแลอ่าวพัทยา เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป พร้อมกันนี้จะมีเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากกองเรือภาคที่ 3 จ.ภูเก็ต ลงมาสำรวจอีกครั้งหนึ่ง