ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่แจงเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัด และ 4 อำเภอ ชายแดนใต้ เผยการสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ พร้อมมีนโยบายช่วยเหลือชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดิอารเบีย จัดทุนไปแสวงบุญทุนละ 150,000 บาท จำนวน 200 ทุน
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่มัสยิดบ้านเกาะแต้ว หมู่ที่ 6 ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปพบปะผู้นำศาสนาและพี่น้องชาวไทยมุสลิมในจังหวัดสงขลาในงานเมาลิดกลางบ้านเกาะแต้ว ของเทศบาลตำบลเกาะแต้ว เพื่อชี้แจงถึงการขยายเวลาในการใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อเนื่องอีก 3 เดือน
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ซึ่งในภาพรวมประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาต่างเห็นด้วย ที่มีการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินฯในพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่าทำให้สถานการณ์ไม่สงบปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อีก 3 เดือนที่ต่ออายุ พรก.ฉบับนี้แล้วก็คงจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ สรุปถึงประสิทธิภาพในการใช้ พรก.ฉบับนี้ แต่หากไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าการมี พรก.ฉบับนี้แล้วทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างไรบ้าง ก็อาจจะต้องพิจารณาว่าจะยกเลิก กฎอัยการศึกและพรก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่แล้วใช้กฎหมายปกติ แต่อย่างไรก็ตามคงจะต้องประเมินความถี่ของการเกิดสถานการณ์ไม่สงบในพื้นที่ในการพิจารณาด้วยว่าในคราวต่อจะยกเลิก พรก.ฉบับนี้หรือยังคงไว้พื้นที่ต่อไป
ขณะเดียวกันก็ได้เล่าเหตุการณ์ในการสลายม๊อบเสื้อแดงที่กรุงเทพมหานคร ตามข้อเท็จจริงที่ รมช.มหาดไทยประสบมาด้วยตนเองให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิมฟัง เพื่อจะได้เข้าใจในความจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งชี้แจงนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการที่จะช่วยเหลือชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งจะมีการตั้งกงสุลใหญ่ประจำกรุงเจ๊ตด้า ประเทศซาอุดิอารเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิมจากประเทศไทยไปแสวงบุญในแต่ละปี
ในขณะเดียวกันก็ได้จัดทุนในการเดินทางไปแสวงบุญทุนละ 150,000 บาท จำนวน 200 ทุน ให้กับชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มีความตั้งใจเดินทางไปแสวงบุญ โดยจะเริ่มในปีนี้เป็นปีแรกและจะให้ชาวไทยมุสลิมในแต่ละหมู่บ้าน แต่ละอำเภอเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจะได้ทุนฯ กันเอง โดยทางราชการ เทศบาล อบต.ไม่มีสิทธิ์เข้าไปคัดเลือก จะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเลือกกันเองตามความเหมาะสม
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่มัสยิดบ้านเกาะแต้ว หมู่ที่ 6 ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปพบปะผู้นำศาสนาและพี่น้องชาวไทยมุสลิมในจังหวัดสงขลาในงานเมาลิดกลางบ้านเกาะแต้ว ของเทศบาลตำบลเกาะแต้ว เพื่อชี้แจงถึงการขยายเวลาในการใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อเนื่องอีก 3 เดือน
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ซึ่งในภาพรวมประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาต่างเห็นด้วย ที่มีการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินฯในพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่าทำให้สถานการณ์ไม่สงบปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อีก 3 เดือนที่ต่ออายุ พรก.ฉบับนี้แล้วก็คงจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ สรุปถึงประสิทธิภาพในการใช้ พรก.ฉบับนี้ แต่หากไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าการมี พรก.ฉบับนี้แล้วทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างไรบ้าง ก็อาจจะต้องพิจารณาว่าจะยกเลิก กฎอัยการศึกและพรก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่แล้วใช้กฎหมายปกติ แต่อย่างไรก็ตามคงจะต้องประเมินความถี่ของการเกิดสถานการณ์ไม่สงบในพื้นที่ในการพิจารณาด้วยว่าในคราวต่อจะยกเลิก พรก.ฉบับนี้หรือยังคงไว้พื้นที่ต่อไป
ขณะเดียวกันก็ได้เล่าเหตุการณ์ในการสลายม๊อบเสื้อแดงที่กรุงเทพมหานคร ตามข้อเท็จจริงที่ รมช.มหาดไทยประสบมาด้วยตนเองให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิมฟัง เพื่อจะได้เข้าใจในความจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งชี้แจงนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการที่จะช่วยเหลือชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งจะมีการตั้งกงสุลใหญ่ประจำกรุงเจ๊ตด้า ประเทศซาอุดิอารเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิมจากประเทศไทยไปแสวงบุญในแต่ละปี
ในขณะเดียวกันก็ได้จัดทุนในการเดินทางไปแสวงบุญทุนละ 150,000 บาท จำนวน 200 ทุน ให้กับชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มีความตั้งใจเดินทางไปแสวงบุญ โดยจะเริ่มในปีนี้เป็นปีแรกและจะให้ชาวไทยมุสลิมในแต่ละหมู่บ้าน แต่ละอำเภอเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจะได้ทุนฯ กันเอง โดยทางราชการ เทศบาล อบต.ไม่มีสิทธิ์เข้าไปคัดเลือก จะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเลือกกันเองตามความเหมาะสม