ตรัง – จังหวัดตรังแนะนักดูนกบนเกาะลิบงที่มีนกจากประเทศไซบีเรีย หนีอากาศหนาว อพยพเดินทางเข้ามาหากินในพื้นที่ ต.เกาะลิบง ตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึงเมษายนเป็นประจำทุกปี มากนับแสนตัว รวมประมาณ 100 ชนิด
วันนี้ (6 เม.ย.) นายมีชัย อัยศูรย์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปเข้าไปในพื้นที่ ต.เกาะลิบง เช่น ที่บริเวณแหลมจุโหย หน้าที่ทำการเขตห้ามล่าฯ รวมทั้งหาดตูบ หาดสะพานช้าง (ปากคลองบ้านพร้าว) และอ่าวฝรั่ง ซึ่งเป็นจุดที่มีนกจากประเทศไซบีเรีย หนีอากาศหนาวเย็นที่ถูกน้ำแข็งปกคลุมแหล่งหากิน อพยพเดินทางเข้ามาหากินในพื้นที่ ต.เกาะลิบง ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเมษายน เป็นประจำทุกปี หรือคิดเป็นระยะทางที่นกอพยพมาไกลกว่า 3,500 กิโลเมตร
จากการสำรวจในปีนี้พบว่า มีนกอพยพ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า นกชายเลน เข้ามาอาศัยในบริเวณชายหาดต่างๆ บนเกาะลิบง เป็นจำนวนมากนับแสนตัว รวมประมาณ 100 ชนิด ซึ่งประกอบไปด้วย นกอีก๋อยเล็ก นกอีก๋อยใหญ่ นกทะเลขาเขียว นกทะเลขาแดง นกนางนวลแกรบ นกนางนวลใหญ่ นกท้ายทอยดำ นกพริกใหญ่ นกหัวโตทรายใหญ่ นกหัวโตทรายเล็ก นกน๊อทใหญ่ นกน๊อทเล็ก ฯลฯ ทั้งนี้ นกหลายตัวมีเครื่องหมายห่วงขา และธงติดขาอยู่ ซึ่งแสดงให้รับรู้ถึงแหล่งที่นกเหล่านั้นบินอพยพมา
นายมีชัย กล่าวว่า ขณะนี้เกาะลิบงถือเป็นแหล่งดูนกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยไปแล้ว เพราะทุกปีจะมีนกอพยพเข้ามาหากินเป็นจำนวนมาก และจะพากันเดินหากินอาหารในเวลาที่น้ำลด เช่นกินสัตว์น้ำตัวเล็กๆ ตามบริเวณชายหาด ป่าชายเลน และหญ้าทะเล ซึ่งเกาะลิบงถือได้ว่าเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ และจัดเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำของโลก เพราะเส้นทางบินของนกชายเลน หรือนกอพยพเหล่านี้ จะผ่านบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำที่อุดมสมบูรณ์
ทั้งนี้ นกจะแวะหยุดพัก และหาอาหาร ทำให้ประเทศต่างๆ เกิดความร่วมมือกันสร้างเครือข่ายที่สำคัญระดับนานาชาติเรียกว่า เครือข่ายการอนุรักษ์นกชายเลนเอเชียตะวันออก - ออสเตรเลีย เพื่อเน้นความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำต่อนกชายเลน และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ
เมื่อนกทั้งหมดออกจากเกาะลิบงของประเทศไทยแล้ว ก็จะบินไปหากินยังแหล่งใหม่คือ ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศออสเตรเลีย ต่อไป ดังนั้น ทุกปีในเดือนเมษายน จะมีนักส่องนก รวมทั้งเจ้าหน้าที่กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เข้ามาสำรวจดูนกอพยพ
สำหรับนักท่องเที่ยวคนใดสนใจสามารถเดินทางเข้ามาดูได้ ด้วยการไปลงเรือที่ท่าเรือหาดยาว หรือหาดเจ้าไหม โดยมีค่าเช่าเหมาไปกลับลำละ 700 บาท จุผู้โดยสารได้ไม่เกิน 12 คน และใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ทั้งนี้ สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือจะพักค้างคืนตามห้องพักบนเกาะต่างๆ ก็ได้