ปัตตานี – นักศึกษาพยาบาลจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา ตัวแทนจาก 4 จังหวัดชายแดนใต้ เข้าร้องเรียนกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กรณีทางสถาบันฯ ไม่ได้มีการจัดการเรียนการสอนวิชาคณะพยาบาลศาสตร์ตามที่สถาบันการศึกษาดังกล่าวตกลงไว้
ที่ห้องประชุมโรงแรมซีเอสปัตตานี อ.เมืองปัตตานี ได้มีตัวแทนของนักศึกษาที่มาจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 31 ราย รวมทั้งผู้ปกครองได้เข้ามาชี้แจ้ง ให้นายสุรสีห์ โกศลนาวิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนทราบในรายละเอียด กรณีที่มีสถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้จัดการเรียนการสอนวิชาคณะพยาบาลศาสตร์ตามที่ทางสถาบันการศึกษาดังกล่าวได้มีการตกลงกันไว้
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวแทนนักศึกษาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิฯ ที่นักศึกษาได้เข้าไปสมัครเรียนแล้วไม่ต่ำกว่า 300 กว่าคน แต่ทุกคนต้องประสบกับความผิดหวังหลังจากที่ได้เรียนมาแล้วได้ 1 ปีแต่กลับไม่ได้มีการสอนวิชาของคณะพยาบาลเลย ทำให้นักศึกษาส่วนมากหนีกลับบ้าน เพื่อหาสถานศึกษาใหม่ แต่ก็ยังคงมีนักศึกษากำลังเรียนต่ออยู่ ในสถานศึกษาดังกล่าว
ดังนั้น ตัวแทนของนักศึกษาจึงได้ลงชื่อจำนวน 31 ราย เพื่อเข้าร้องเรียนกรรมการสิทธิฯ เพื่อให้มีการตรวจสอบหาข้อเท็จว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหลังจากที่นักศึกษาได้เข้าพบ ดร.มัฆวาฬ สุวรรณเรือง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี แห่งอโยธยา แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด และได้ชี้แจงเพียงว่าให้นักเรียนที่ตั้งใจจะเรียนคณะพยาบาลนั้นให้เรียนจนจบ 4 ปีก่อนแล้วค่อยมาเรียนพยาบาลอีก 2 ปี เพราะทางสถาบันกำลังอยู่ระหว่างจะดำเนินการขออนุญาตเปิดวิชาคณะพยาบาล
นายสุรสีห์ โกสศลนาวิน กรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า การกระทำลักษณะนี้ว่าเป็นการกระทำในลักษณะเข้าข่ายละเมิดสิทธิ ดังนั้นทางสถาบันเทคโนโลยี แห่งอโยธยา ต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ต้องเป็นภาระให้กับนักศึกษาที่เข้ามาเรียนที่นี้ เพราะทุกคนต้องกู้เงินของ กยศ. ที่ทางโรงเรียนเป็นฝ่ายดำเนินการฝ่ายเดียวทั้งหมด แต่กลับไม่ได้ดูแลการศึกษาให้กับนักศึกษาดีเท่าที่ควร ทำให้ต้องเสียเวลาไป 1 ปี ทางสถาบันต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบทั้งหมด รวมทั้งคณะกรรมการการอุดมศึกษา ที่จะต้องมีการวางมาตรการเพื่อไม่ให้ทางสถาบันการศึกษา เอามาแอบอ้างแล้วลอกลวงประชาชนอย่างกรณีเช่นนี้
นางสาวรอตีปะ ปาเนาะ ตัวแทนนักศึกษาฯ กล่าวว่า การที่เราเลือกเข้ามาเรียนที่สถาบันแห่งนี้ ก็เพราะอยากเรียนพยาบาล เพราะเข้ามาเรียนที่นี้เราไม่ต้องสอบ สามารถเรียนได้ทันที เพียงพาเงินแค่ 3,000 บาท แต่พอมาถึงที่สถาบันฯ กลับต้องได้รับความเดือดร้อนหลายเรื่อง เช่นสถานที่พักไม่เรียบร้อย คณะวิชาที่เรียนไม่ตรงกับที่ได้ตกลงกันหรือที่ได้ประกาศไว้ แล้วการเรียนก็ไม่จริงจัง
นางสาวรอตีปะกล่าวอีกว่า ความจริงนักศึกษาที่เข้ามาเรียนที่นี้ส่วนมากได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ มาแล้ว แต่ต้องการเรียนพยาบาลหวังจะมีงานทำง่ายขึ้น จึงยอมสละสิทธิดังกล่าว สุดท้ายต้องมาเจอปัญหาลอกลวง มีนักศึกษาบางคนเข้ามาเรียนมาเพียงปี 1 แต่กลับต้องเป็นหนี้ กยศ.มาแล้ว 2 ปี จึงอยากให้มีผู้ที่มีความเกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ด้วย และอยากฝากน้องๆ ที่กำลังจะหาสถานศึกษาขอให้มีการพิจารนาให้รอบคอบถี่ถ้วน เพราะของฟรีย่อมไม่มีในโลกนี้