ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สมาคมประมงสงขลาขอความเป็นธรรมอินโดนีเซีย หลังเรือขนส่งสินค้าสัตว์น้ำของไทยถูกเรือสัญชาติอินโดนีเซียยิงในเขตน่านน้ำมาเลเซีย ซึ่งจะถูกคุกคามจากเรืออินโดนีเซีย อยู่เป็นประจำโดยพยายามรุกล้ำน่านน้ำมาเลเซียเข้ามาจับกุมเรือประมงไทย และลากเข้าไปในเขตน่านน้ำอินโดนีเซีย เพื่อเรียกค่าไถ่
วันนี้ (24 มี.ค.) นายประพร เอกอุรุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนายกสมาคมประมงสงขลา เปิดเผยว่า จากกรณีที่เรือ ช.นนทรี 2 ซึ่งเป็นเรือขนส่งสินค้าสัตว์น้ำของไทยถูกเรือสัญชาติอินโดนีเซียยิงในเขตน่านน้ำมาเลเซีย ส่งผลให้เรือได้รับความเสียหาย และลูกเรือบาดเจ็บ 1 คนเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่าน
ทางสมาคมประมงสงขลาได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสถานทูตอินโดนีเซีย และสถานกงสุลอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับเรือประมงไทยที่ถูกคุกคามในครั้งนี้ เพราะเป็นการทำเกินกว่าเหตุที่สำคัญเรือขนส่งสินค้าสัตว์น้ำของไทยมีใบผ่านแดนของมาเลเซียถูกต้อง
นายประพรกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยัง พลเรือโท กัมปนาท ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ให้ประสานทหารเรือ และตำรวจน้ำมาเลเซียที่มีการปฏิบัติการฝึกร่วมทางทะเลไทย-มาเลเซีย ให้ช่วยดูแลเรือประมงไทยที่เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำมาเลเซีย ไม่ให้ถูกคุกคามจากเรืออินโดนีเซีย
ทั้งนี้ เนื่องจากเรือประมงไทยที่ไปทำการประมงนอกน่านน้ำ จะถูกคุกคามจากเรืออินโดนีเซีย อยู่เป็นประจำโดยพยายามรุกล้ำน่านน้ำมาเลเซียเข้ามาจับกุมเรือประมงไทย และลากเข้าไปในเขตน่านน้ำอินโดนีเซีย เพื่อเรียกค่าไถ่
วันนี้ (24 มี.ค.) นายประพร เอกอุรุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนายกสมาคมประมงสงขลา เปิดเผยว่า จากกรณีที่เรือ ช.นนทรี 2 ซึ่งเป็นเรือขนส่งสินค้าสัตว์น้ำของไทยถูกเรือสัญชาติอินโดนีเซียยิงในเขตน่านน้ำมาเลเซีย ส่งผลให้เรือได้รับความเสียหาย และลูกเรือบาดเจ็บ 1 คนเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่าน
ทางสมาคมประมงสงขลาได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสถานทูตอินโดนีเซีย และสถานกงสุลอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับเรือประมงไทยที่ถูกคุกคามในครั้งนี้ เพราะเป็นการทำเกินกว่าเหตุที่สำคัญเรือขนส่งสินค้าสัตว์น้ำของไทยมีใบผ่านแดนของมาเลเซียถูกต้อง
นายประพรกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยัง พลเรือโท กัมปนาท ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ให้ประสานทหารเรือ และตำรวจน้ำมาเลเซียที่มีการปฏิบัติการฝึกร่วมทางทะเลไทย-มาเลเซีย ให้ช่วยดูแลเรือประมงไทยที่เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำมาเลเซีย ไม่ให้ถูกคุกคามจากเรืออินโดนีเซีย
ทั้งนี้ เนื่องจากเรือประมงไทยที่ไปทำการประมงนอกน่านน้ำ จะถูกคุกคามจากเรืออินโดนีเซีย อยู่เป็นประจำโดยพยายามรุกล้ำน่านน้ำมาเลเซียเข้ามาจับกุมเรือประมงไทย และลากเข้าไปในเขตน่านน้ำอินโดนีเซีย เพื่อเรียกค่าไถ่