“สุนัย” ปากพล่อย อ้างหัวหน้า ปชป.ตัวจริงอยู่นอกสภา เจอประท้วงวุ่น

“สุนัย” ปากไม่มีหูรูด อภิปราย “มาร์ค” เหน็บแนมเป็นหัวหน้า ปชป.ตัวปลอม ส่วนตัวจริงอยู่นอกสภา ส.ส.สุดทนลุกขึ้นประท้วงวุ่น จี้ให้บอก หัวหน้าตัวจริงเป็นใคร แต่ ส.ส.เสื้อแดงทำเฉไฉ ไม่ยอมตอบ อ้างให้รอฟัง “ทักษิณ” โฟนอิน วันที่ 22 มี.ค.ต้องบุกถามถึงห้องวิปฝ่ายค้าน “ชินวรณ์” หวั่นเสียบรรยากาศ เข้าห้ามทัพไว้ก่อน

เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 19 มี.ค.ระหว่างที่ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยหยิบยกเรื่องในกระทรวงศึกษาธิการ มาอภิปราย โดยระหว่างนั้นได้พูดจาเหน็บแนม นายอภิสิทธิ์ ว่า ไม่ใช่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตัวจริง เพราะหัวหน้าพรรคตัวจริงนั้น เป็นหัวหน้าอมตะ และอยู่นอกสภา ซึ่งทำให้ นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นมาประท้วง พร้อมกับเรียกร้องให้ นายสุนัย พูดออกมาให้ชัดเจนว่า หาก นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าตัวปลอม แล้วหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตัวจริงเป็นใคร ซึ่ง นายสุนัย ได้บ่ายเบี่ยง โดยบอกว่า วันที่ 22 มี.ค.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะโฟนอินมาบอก ให้รอฟังวันนั้น นายอภิชาติได้ตอบโต้ว่า ทำไมต้องไปรอฟังจากนักโทษหนีคดี นายสุนัยพูดออกมาแล้วต้องรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นก็ต้องถอนคำพูด และคาดคั้นให้นายสุนับพูดออกมาทันที นายสุนัย ได้เฉไฉไปว่าจะบอกในตอนท้ายหลังจากอภิปรายเสร็จ

อย่างไรก็ตาม เมื่อ นายสุนัย อภิปรายเรื่องในกระทรวงศึกษาธิการเสร็จ กลับไม่ยอมบอกชื่อหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตัวจริงคือใคร โดยได้เดินออกจากห้องประชุมไป เพื่อจะขึ้นไปยังห้องวิปฝ่ายค้านที่ชั้น 3 ของตึกรัฐสภา แต่ได้ออกประตูห้องประชุมฝั่งห้องอาหาร และเดินผ่านหน้าห้องวิปรัฐบาล เพื่อเดินขึ้นไปบนชั้น 3

ระหว่างนั้น มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มหนึ่ง นำโดย นายอภิชาติ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี นพ.อสิ มะหะมัดยังกี ส.ส.สตูล นายประพร เอกอุรุ ส.ส.สงขลา ได้รวมตัวกันเดินตาม นายสุนัย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่หลังจากได้เดินขึ้นไปถึงระหว่างชั้น 2 และ ชั้น 3 ปรากฏว่า นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้วิ่งล็อกแขน นายอภิชาติ ลงมาจากบันได และพาเดินเข้าห้องวิปรัฐบาล ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยมีรายงานว่า นายชินวรณ์ ได้เรียก ส.ส.กลุ่มดังกล่าวมาตักเตือน และให้สงบสติอารมณ์ เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศการประชุม และจะทำให้เสียภาพพจน์ของพรรครัฐบาล พร้อมทั้งกำชับให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามข้อบังคับระเบียบการประชุมอย่างเคร่งครัด