สุราษฎร์ธานี- หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมจัดงาน “วันเปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ครั้งที่ 6” ระหว่าง 21-22 มี.ค.นี้ ที่หาดทรายรี เกาะเต่า เน้นกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กระตุ้นจิตสำนึกนักเที่ยว ชาวบ้านดูแลอู่ข้าวอู่น้ำ
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่โรงแรมวังใต้ จ.สุราษฎร์ธานี นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายประยุทธ ทองนวล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเต่า และ นางชไมพร เสาวลักษณ์ ประธานชมรมเรารักเกาะเต่า ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมการจัดงาน “วันเปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ครั้งที่ 6” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคม 2552 นี้ ณ หาดทรายรี เกาะเต่า
นายประยุทธ ทองนวล กล่าวว่า เกาะเต่าเป็น 1ใน 10 สุดยอดแหล่งดำน้ำของโลก รองรับนักท่องเที่ยวที่ไหลเวียนมาจากทั่วโลกปีละไม่ต่ำกว่า 350,000 คน สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ด้วยเสน่ห์ของโลกธรรมชาติใต้ทะเล ที่ยังมีแนวปะการังที่จัดว่า สมบูรณ์ และสวยงาม ส่งผลให้เกาะเต่า มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้กำลังเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว มีผู้คนจากทั่วสารทิศเข้ามาอยู่อาศัยและท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างปัญหาขยะ น้ำเสีย การรุกล้ำแนวชายหาด และแหล่งต้นน้ำลำธารที่นับวันจะเป็นปัญหาใหญ่ และจำเป็นต้องมีการหาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาขยะ
ถึงแม้ว่าเราจะมีธุรกิจรับซื้อขยะ ที่สามารถนำไปแปรรูปใช้ได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน อย่างไรก็ดีเกาะเต่าเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีระบบเครือญาติเข้มแข็ง และถือเป็นผู้ประกอบการหลักในธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะ
ดังนั้น การสร้างจิตสำนึก และร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมถือเป็นต้นทุนสำคัญของเกาะที่จะถ่ายทอดแก่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปในอนาคต โดยทุกปีองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเต่า ร่วมกับหน่วยงานราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนตำบลเกาะเต่า จะร่วมกันจัดงาน เปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการกระตุ้น และปลูกจิตสำนึก ให้ความรู้ความเข้าใจในการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในเกาะ
อีกทั้งเพื่อเป็นการเปิดฤดูการท่องเที่ยวทางทะเลเกาะเต่า เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และประเทศไทยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
กิจกรรมประกอบด้วย การดำน้ำดูปะการัง ปล่อยหอยมือเสือ และปล่อยลูกเต่าทะเล คืนสู่ธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศงานวัดกลางเกาะ ร่วมสนุกกับการละเล่นแบบบ้าน ๆ อีกมากมาย มีค่าที่พักตั้งแต่ 500-10,000 บาทต่อคืน
ด้าน นางชไมพร เสาวลักษณ์ ประธานชมรมเรารักษ์เกาะเต่า กล่าวว่า ปีนี้มีกิจกรรมเน้นการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก และโฟมอย่างจริงจัง เพราะเห็นว่า ปัญหาขยะเป็นปัญหาสะสมที่จำเป็นต้องมีการจัดการอย่างเร่งด่วน ก่อนที่เกาะเล็กๆ แห่งนี้จะบอบซ้ำ และเสื่อมโทรมลงมากไปกว่านี้ องค์กรชุมชรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเกาะเต่า ที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาเกาะเต่าให้น่าอยู่และยั่งยืนต่อไป