พัทลุง – ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงเมินประชุมรังนกต้องยุติกลางคัน เนื่องจากไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา และมีนอมินีเข้าร่วมประชุมเป็นส่วนมาก ซึ่งผลสรุปการประชุมไม่มีเนื้อหาสาระอะไร ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาป้องการการลักขโมยรังนกที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามาได้
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่าที่ห้องประชุมอิรวดี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายอรชุน นุ้ยบ้านด่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้รับมอบหมายจากนายสุเทพโกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่นจังหวัดพัทลุง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงและรายละเอียดการขโมยรังนกบนเกาะสี่เกาะห้า ตามคำร้องเรียนของชาวบ้าน
แต่ผู้รับผิดชอบในการคุ้มครองรังนกส่วนใหญ่มิได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งบางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมทั้งๆ ที่ตัวแทนเองก็ไม่ทราบรายละเอียดแต่อย่างใดและในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางว่านายอรชุณ นุ้ยบ้านด่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมครั้งนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ และได้มีมติที่จะส่งเรื่องนี้ไปหารือกับส่วนกลางอีกครั้งหนึ่ง ทำให้การประชุมต้องยุติลงกลางคันหลังจากที่การประชุมผ่านไปเพียงประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการกำหนดความชัดเจนในการประชุมครั้งต่อไปนั้นยังไม่มีการกำหนด เนื่องจากนายสุเทพ โกมลภมร ประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุงตัวจริงได้หลีกเลี่ยงและไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา และหลังจากยุติการประชุมคณะกรรมการที่มาจากฝ่าย อบจ.พัทลุง ได้มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ มีการจ่ายเบี้ยประชุม แต่มีคณะกรรมการบางคนเกิดอาการหงุดหงิดไม่ยอมรับ เนื่องจากการประชุมครั้งนี้มีนอมินีเข้าร่วมประชุมเป็นส่วนมาก และผลสรุปการประชุมไม่มีเนื้อหาสาระอะไร ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
สืบเนื่องจากสัญญาสัมปทานรังนกนางแอ่นจังหวัดพัทลุงได้สิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา เกิดการร้องเรียนส่งผลให้ศาลปกครองระงับการประมูลเป็นการชั่วคราว จนถึงขณะนี้การสัมปทานดังกล่าวเป็นศูนย์ญากาศ ทางจังหวัดส่งคนของตัวเองลงไปคุ้มครองรังนกเพื่อป้องกันขโมย
สุดท้ายได้เกิดการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการประมูลรังนกในตลาดมืด บริเวณรอบเกาะสี่-เกาะห้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหา แต่ประธานตัวจริงกลับส่งนอมินี ในที่สุดไม่สามารถแก้ปัญหาป้องการการลักขโมยรังนก ที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามา แต่ผู้เข้าร่วมประชุมกลับรับเงินเบี้ยประชุมหน้าตาเฉย จนเป็นที่กังขาของประชาชนชาวพัทลุง ต่อการรักษาขุมทรัพย์ของจังหวัดกลางทะเลสาบ
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่าที่ห้องประชุมอิรวดี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายอรชุน นุ้ยบ้านด่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้รับมอบหมายจากนายสุเทพโกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่นจังหวัดพัทลุง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงและรายละเอียดการขโมยรังนกบนเกาะสี่เกาะห้า ตามคำร้องเรียนของชาวบ้าน
แต่ผู้รับผิดชอบในการคุ้มครองรังนกส่วนใหญ่มิได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งบางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมทั้งๆ ที่ตัวแทนเองก็ไม่ทราบรายละเอียดแต่อย่างใดและในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางว่านายอรชุณ นุ้ยบ้านด่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมครั้งนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ และได้มีมติที่จะส่งเรื่องนี้ไปหารือกับส่วนกลางอีกครั้งหนึ่ง ทำให้การประชุมต้องยุติลงกลางคันหลังจากที่การประชุมผ่านไปเพียงประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการกำหนดความชัดเจนในการประชุมครั้งต่อไปนั้นยังไม่มีการกำหนด เนื่องจากนายสุเทพ โกมลภมร ประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกนางแอ่น จังหวัดพัทลุงตัวจริงได้หลีกเลี่ยงและไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา และหลังจากยุติการประชุมคณะกรรมการที่มาจากฝ่าย อบจ.พัทลุง ได้มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ มีการจ่ายเบี้ยประชุม แต่มีคณะกรรมการบางคนเกิดอาการหงุดหงิดไม่ยอมรับ เนื่องจากการประชุมครั้งนี้มีนอมินีเข้าร่วมประชุมเป็นส่วนมาก และผลสรุปการประชุมไม่มีเนื้อหาสาระอะไร ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
สืบเนื่องจากสัญญาสัมปทานรังนกนางแอ่นจังหวัดพัทลุงได้สิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา เกิดการร้องเรียนส่งผลให้ศาลปกครองระงับการประมูลเป็นการชั่วคราว จนถึงขณะนี้การสัมปทานดังกล่าวเป็นศูนย์ญากาศ ทางจังหวัดส่งคนของตัวเองลงไปคุ้มครองรังนกเพื่อป้องกันขโมย
สุดท้ายได้เกิดการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการประมูลรังนกในตลาดมืด บริเวณรอบเกาะสี่-เกาะห้า เพื่อเป็นการแก้ปัญหา แต่ประธานตัวจริงกลับส่งนอมินี ในที่สุดไม่สามารถแก้ปัญหาป้องการการลักขโมยรังนก ที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามา แต่ผู้เข้าร่วมประชุมกลับรับเงินเบี้ยประชุมหน้าตาเฉย จนเป็นที่กังขาของประชาชนชาวพัทลุง ต่อการรักษาขุมทรัพย์ของจังหวัดกลางทะเลสาบ