กระบี่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจขุมเข้มในพื้นที่ตั้งด่านตรวจตรึงพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัย หวั่นเกิดเหตุการณ์รุนแรงปะทะ ม๊อบ-นายทุนสวนปาล์ม ขึ้นอีก
จากกรณีที่มีการยิงปะทะกันระหว่างม็อบและคนคุมสวนปาล์ม ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ ทำให้ม็อบสวนปาล์มบาดเจ็บ 6 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา คืบหน้าล่าสุด
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดการปะทะยิงกันขึ้นระหว่างผู้คุมสวนปาล์มน้ำมัน บริษัท ศรีตรัง ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมม็อบสวนปาล์มน้ำมันที่ใช้ชื่อว่า องค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย ทำให้มีการบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนั้น ทางจังหวัดกระบี่ได้รับรายงานในเรื่องของกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ในสวนปาล์ม เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งทางนายอำเภอเขาพนม ได้รายงานเหตุการณ์มาเป็นระยะ แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะเกิดขึ้น
ที่ผ่านมา ทางจังหวัดกระบี่ได้มีการประชุมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาพนม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัย ภายในพื้นที่ ไม่ให้มีการกระทบกระทั้งกันระหว่างกลุ่มคนที่เข้าไปดูแลสวนปาล์มของบริษัท และกลุ่มม็อบสวนปาล์ม โดยได้เชิญผู้ประกอบการของบริษัทผู้สัมปทานเดิมและตัวแทนของเกษตรกร มาพูดคุยกันบางแล้วกับปัญหาที่เกิดขึ้น
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า มาตรการต่อไปที่จะต้องทำคือจังหวัดกระบี่กับจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะต้องมีการพูดคุยกันในระดับของฝ่ายปกครองร่วมกัน ในเรื่องของรอยต่อระหว่างอำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ในการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันประชาชนทั้งสองจังหวัดก็ไปมาหาสู่ ประกอบอาชีพทางการเกษตรเหมือนกัน
ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าน่าจะมีการปะทะกันเพราะว่ามีรายงานจากผู้เป็นเจ้าของสวนปาล์มในบริเวณดังกล่าว มีการบุกรุกเข้ามาจับจองในพื้นที่ของประชาชนหลายจังหวัดของภาคใต้ มาในรูปขององค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย โดยใช้วิธีการเข้าไปสร้างที่พักอยู่อาศัยเป็นครอบครัว เป็นกลุ่มชน และมีการขโมยผลปาล์มน้ำมันของบริษัท และเข้าไปยึดถือครองที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว
ความจริงพื้นที่สวนปาล์มเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า เป็นพื้นที่ที่จะต้องรอนโยบายจากทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการที่จะต้องมีการจัดการร่วมกันระหว่างผู้สัมปทานสวนปาล์มเดิม กับประชาชนผู้ที่ต้องการพื้นที่ทำกิน
พ.ต.ท.ประจักษ์ รอดการทุกข์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เขาพนม เจ้าของคดี กล่าวว่า ในขณะนี้ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ในการประกอบรูปคดี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อสองจังหวัด การทำงานเลยต้องประสานงานร่วมกันทางสองฝ่ายทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ชัยบุรี ในเรื่องของหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ด้วย ในส่วนการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นในขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ยอมมาให้ปากคำและหายตัวไปเฉยๆ แต่จะตามตัวมาสอบปากคำให้ได้เพื่อหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน
นายภารดร จันทร์เพชร อ้างตัวว่า เป็นฝ่ายกฎหมายของกลุ่มม๊อบองค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันนี้ทางญาติผู้เสียหายพร้อมด้วย ทนายความ จากสภาทนายความภาค 8 จะเดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ทั้งสองแห่ง คือทั้ง สภ.เขาพนม จ.กระบี่ และ สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ปากคำโดยละเอียดและขอความเป็นธรรมแก่ผู้เสียชีวิต แก่ นายโสภณ ตรีสงค์ อายุ 31 ปี ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง 6 คน นอกจากนี้ ในขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการอย่างไรนั้นจะต้องรอมติหรือคำสั่งจากผู้นำองค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย ในการเคลื่อนไหวต่อไป
จากกรณีที่มีการยิงปะทะกันระหว่างม็อบและคนคุมสวนปาล์ม ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ ทำให้ม็อบสวนปาล์มบาดเจ็บ 6 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา คืบหน้าล่าสุด
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดการปะทะยิงกันขึ้นระหว่างผู้คุมสวนปาล์มน้ำมัน บริษัท ศรีตรัง ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมม็อบสวนปาล์มน้ำมันที่ใช้ชื่อว่า องค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย ทำให้มีการบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนั้น ทางจังหวัดกระบี่ได้รับรายงานในเรื่องของกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ในสวนปาล์ม เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งทางนายอำเภอเขาพนม ได้รายงานเหตุการณ์มาเป็นระยะ แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์ความรุนแรงจะเกิดขึ้น
ที่ผ่านมา ทางจังหวัดกระบี่ได้มีการประชุมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาพนม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัย ภายในพื้นที่ ไม่ให้มีการกระทบกระทั้งกันระหว่างกลุ่มคนที่เข้าไปดูแลสวนปาล์มของบริษัท และกลุ่มม็อบสวนปาล์ม โดยได้เชิญผู้ประกอบการของบริษัทผู้สัมปทานเดิมและตัวแทนของเกษตรกร มาพูดคุยกันบางแล้วกับปัญหาที่เกิดขึ้น
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า มาตรการต่อไปที่จะต้องทำคือจังหวัดกระบี่กับจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะต้องมีการพูดคุยกันในระดับของฝ่ายปกครองร่วมกัน ในเรื่องของรอยต่อระหว่างอำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ในการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันประชาชนทั้งสองจังหวัดก็ไปมาหาสู่ ประกอบอาชีพทางการเกษตรเหมือนกัน
ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าน่าจะมีการปะทะกันเพราะว่ามีรายงานจากผู้เป็นเจ้าของสวนปาล์มในบริเวณดังกล่าว มีการบุกรุกเข้ามาจับจองในพื้นที่ของประชาชนหลายจังหวัดของภาคใต้ มาในรูปขององค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย โดยใช้วิธีการเข้าไปสร้างที่พักอยู่อาศัยเป็นครอบครัว เป็นกลุ่มชน และมีการขโมยผลปาล์มน้ำมันของบริษัท และเข้าไปยึดถือครองที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว
ความจริงพื้นที่สวนปาล์มเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า เป็นพื้นที่ที่จะต้องรอนโยบายจากทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการที่จะต้องมีการจัดการร่วมกันระหว่างผู้สัมปทานสวนปาล์มเดิม กับประชาชนผู้ที่ต้องการพื้นที่ทำกิน
พ.ต.ท.ประจักษ์ รอดการทุกข์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เขาพนม เจ้าของคดี กล่าวว่า ในขณะนี้ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ในการประกอบรูปคดี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อสองจังหวัด การทำงานเลยต้องประสานงานร่วมกันทางสองฝ่ายทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ชัยบุรี ในเรื่องของหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ด้วย ในส่วนการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นในขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ยอมมาให้ปากคำและหายตัวไปเฉยๆ แต่จะตามตัวมาสอบปากคำให้ได้เพื่อหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน
นายภารดร จันทร์เพชร อ้างตัวว่า เป็นฝ่ายกฎหมายของกลุ่มม๊อบองค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันนี้ทางญาติผู้เสียหายพร้อมด้วย ทนายความ จากสภาทนายความภาค 8 จะเดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ทั้งสองแห่ง คือทั้ง สภ.เขาพนม จ.กระบี่ และ สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ปากคำโดยละเอียดและขอความเป็นธรรมแก่ผู้เสียชีวิต แก่ นายโสภณ ตรีสงค์ อายุ 31 ปี ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง 6 คน นอกจากนี้ ในขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการอย่างไรนั้นจะต้องรอมติหรือคำสั่งจากผู้นำองค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรแห่งประเทศไทย ในการเคลื่อนไหวต่อไป