นครศรีธรรมราช – ประชาชนกว่า 500 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน ยื่นหนังสือเรียกร้องที่ดินทำกินในเขตป่าสงวน จำนวน 83,000 ไร่ ต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ชี้เข้าข่ายกรณีชาวบ้านถูกล่อลวงให้เปิดบัญชีธนาคารโดยอ้างว่าผู้ว่าฯ โอนเงินพร้อมที่ดินให้ คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามข้อมูลจากทางการอย่างเร่งด่วน
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชาชนกว่า 500 คนซึ่งอ้างว่าเป็นเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน จากพื้นที่อำเภอชะอวด, เมือง,ปากพนัง,ลานสกา,ถ้ำพรรณรา, นาบอน, ทุ่งใหญ่, พระพรหม, ทุ่งสง, หัวไทร, เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ, ท่าศาลา และสิชล มาติดตามความคืบหน้า กรณียื่นหนังสือเรียกร้องขอใช้พื้นที่ทำกินในเขตป่าสงวนที่เสื่อมโทรม ป่าพรุควนเครง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 83,000 ไร่ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ภายหลังสั่งการมายังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช โดยมีนายบุญญวัฒน์ ชีช้าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายศรัณย์ ใจสอาด ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ผู้เกี่ยวข้อง และนายสมยศ ขำเกิด ประธานเครือข่ายสมัชชาปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน และแกนนำอีก 16 คน ประชุมหารือร่วมกันในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เบื้องต้นที่ประชุมมีมติให้กำหนดแต่งตั้งคณะกรรมการ ในการลงพื้นที่สำรวจโดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ และกลุ่มเครือข่ายสมัชชา ลงพื้นที่ทำการสำรวจร่วมกันว่าบริเวณใดเป็นพื้นที่ว่างที่สามารถอนุญาตให้ขอใช้พื้นที่ทำกินได้ โดยจะต้องขอความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เป็นตัวช่วยในการดำเนินงาน ทั้งนี้กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หลังแต่งตั้งคณะกรรมการแล้ว เพื่อสรุปจำนวนพื้นที่ว่างรายงานกรมป่าไม้ต่อไป
นายศรัณย์ ใจสอาด ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าสงวนที่เสื่อมโทรม เป็นพื้นที่ที่ประชาชนสามารถยื่นหนังสือเรียกร้องขอเช่าทำกินได้ แต่ต้องเป็นพื้นที่ตรวจสอบแล้วว่ามีพื้นที่ว่าง และไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามในขณะที่ยังอยู่ระหว่างการสำรวจหาข้อมูล ขอห้ามมิให้ประชาชนดำเนินการตัดไม้ สร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในพื้นที่ป่าสงวนก่อนดำเนินการแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม จากการรวมตัวกันของกลุ่มชาวบ้านในครั้ง มีการตั้งข้อสังเกตว่าก่อนหน้านี้ได้มีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อแกนนำ ล่อลวงให้มาเปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดให้เปิด เพื่อรองรับเงินจากรัฐบาลรายละ 2 แสนบาทพร้อมที่ดินอีกรายละ 20 ไร่ ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อมาเปิดบัญชีนับร้อยคนจนกระทั่งนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งสถานีตำรวจทุกท้องที่ ที่ว่าการกอำเภอทุกอำเภอสืบสวนติดตามข้อมูลดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้ออกประกาศเตือนไปยังทุกธนาคารให้ระมัดการตกเป็นเครื่องมือของขบวนการล่อลวง
เบื้องต้นพบข้อมูลว่า ชาวบ้านที่มารวมตัวดังกล่าวนั้นส่วนหนึ่งถูกล่อลวงว่าจะได้ที่ดินจากรัฐ ขณะเดียวกันมีการเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านแล้วรายละ 5,000 บาท คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามข้อมูลจากทางการอย่างเร่งด่วน
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชาชนกว่า 500 คนซึ่งอ้างว่าเป็นเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน จากพื้นที่อำเภอชะอวด, เมือง,ปากพนัง,ลานสกา,ถ้ำพรรณรา, นาบอน, ทุ่งใหญ่, พระพรหม, ทุ่งสง, หัวไทร, เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ, ท่าศาลา และสิชล มาติดตามความคืบหน้า กรณียื่นหนังสือเรียกร้องขอใช้พื้นที่ทำกินในเขตป่าสงวนที่เสื่อมโทรม ป่าพรุควนเครง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 83,000 ไร่ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ภายหลังสั่งการมายังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช โดยมีนายบุญญวัฒน์ ชีช้าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายศรัณย์ ใจสอาด ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ผู้เกี่ยวข้อง และนายสมยศ ขำเกิด ประธานเครือข่ายสมัชชาปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน และแกนนำอีก 16 คน ประชุมหารือร่วมกันในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เบื้องต้นที่ประชุมมีมติให้กำหนดแต่งตั้งคณะกรรมการ ในการลงพื้นที่สำรวจโดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ และกลุ่มเครือข่ายสมัชชา ลงพื้นที่ทำการสำรวจร่วมกันว่าบริเวณใดเป็นพื้นที่ว่างที่สามารถอนุญาตให้ขอใช้พื้นที่ทำกินได้ โดยจะต้องขอความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เป็นตัวช่วยในการดำเนินงาน ทั้งนี้กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หลังแต่งตั้งคณะกรรมการแล้ว เพื่อสรุปจำนวนพื้นที่ว่างรายงานกรมป่าไม้ต่อไป
นายศรัณย์ ใจสอาด ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าสงวนที่เสื่อมโทรม เป็นพื้นที่ที่ประชาชนสามารถยื่นหนังสือเรียกร้องขอเช่าทำกินได้ แต่ต้องเป็นพื้นที่ตรวจสอบแล้วว่ามีพื้นที่ว่าง และไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามในขณะที่ยังอยู่ระหว่างการสำรวจหาข้อมูล ขอห้ามมิให้ประชาชนดำเนินการตัดไม้ สร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในพื้นที่ป่าสงวนก่อนดำเนินการแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม จากการรวมตัวกันของกลุ่มชาวบ้านในครั้ง มีการตั้งข้อสังเกตว่าก่อนหน้านี้ได้มีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อแกนนำ ล่อลวงให้มาเปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดให้เปิด เพื่อรองรับเงินจากรัฐบาลรายละ 2 แสนบาทพร้อมที่ดินอีกรายละ 20 ไร่ ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อมาเปิดบัญชีนับร้อยคนจนกระทั่งนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งสถานีตำรวจทุกท้องที่ ที่ว่าการกอำเภอทุกอำเภอสืบสวนติดตามข้อมูลดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้ออกประกาศเตือนไปยังทุกธนาคารให้ระมัดการตกเป็นเครื่องมือของขบวนการล่อลวง
เบื้องต้นพบข้อมูลว่า ชาวบ้านที่มารวมตัวดังกล่าวนั้นส่วนหนึ่งถูกล่อลวงว่าจะได้ที่ดินจากรัฐ ขณะเดียวกันมีการเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านแล้วรายละ 5,000 บาท คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามข้อมูลจากทางการอย่างเร่งด่วน
