ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ผู้ประกอบการรถตู้นำเที่ยวไทย-มาเลย์เดือดร้อนหนัก กรณีเจ้าหน้าที่มาเลเซียได้จับกุมรถตู้ท่องเที่ยวของไทยอย่างไม่เป็นธรรมโดยเรียกเก็บเงินคันละ 3,000 บาท ข้อหาใช้รถผิดประเภทแต่ไม่มีการออกใบเสร็จ จึงยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหากไม่ได้รับความชัดเจนจะรวมตัวปิดด่านทันที
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (6 มี.ค.) ตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวรถตู้ไทย-มาเลเซีย ใน จ.สงขลา เข้ายื่นหนังสือต่อนายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อให้ช่วยประสานงานกับทางการมาเลเซีย เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่มาเลเซียได้จับกุมรถตู้ท่องเที่ยวของไทยอย่างไม่เป็นธรรมโดยเรียกเก็บเงินคันละ 3,000 บาท ข้อหาใช้รถผิดประเภทแต่ไม่มีการออกใบเสร็จ สร้างความเดือดร้อนให้ขับคนขับรถตู้ไทย-มาเลเซีย ที่มีอยู่กว่า 170 คัน รวมถึงนักท่องเที่ยวอย่างหนัก ทั้งที่การเดินทางเข้าออกของรถตู้และรถบัสนำเที่ยวทั้งของไทยและมาเลเซีย ตามแนวพรมแดนไทยมาเลเซียได้มีการอนุโลมเพื่อการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ
โดยตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวรถตู้ไทย-มาเลเซีย ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการ จ.สงขลาสงขลา 4 เรื่อง คือ ให้ขอความชัดเจนจากทางการมาเลเซียเกี่ยวกับขั้นตอนปฏิบัติในการขอนุญาตินำรถตู้เข้ามาเลเซียอย่างถูกต้อง ให้หัวหน้ากรมการขนส่งของไทยและหน่วยงานของมาเลเซียร่วมหาข้อยุติกรณีการจับกุมรถตู้ไทย ให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียปฏิบัติต่อรถตู้ไทยเหมือนกับรถตู้มาเลเซียกรณีการนำนักท่องเที่ยวเข้าออก และขอให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียหยุดจับกุมหรือผ่อนปรนไปจนกว่าจะหาข้อยุติในเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้รับข้อเรียกร้องเอาไว้พร้อมกับจะเข้าพบกับทางกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำ จ.สงขลา เพื่อช่วยเจรจาและหาทางออกร่วมกัน ในขณะที่ผู้ประกอบการรถตู้เผยว่าหากหลังจากนี้ไม่มีความชัดเจนและเจ้าหน้าที่มาเลเซียยังจับกุมรถตู้ไทยอีกจะรวมตัวปิดด่านสะเดา จ.สงขลา ทันที