นครศรีธรรมราช – สรรพากรจังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งติดตามสืบสวนภาษีจากการจำหน่ายนมโรงเรียน ระหว่างการทำสัญญาของเอกชนกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายนมโรงเรียนกว่า 100 ล้านบาท
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (4 มี.ค.) ความคืบหน้าในการติดตามความไม่ชอบมาพากลในโครงการนมโรงเรียน โดยเฉพาะการทำสัญญาของ นายเจริญ กับมหาวิทยาลัยชื่อดัง ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายนมโรงเรียน โดยอำพรางการจำหน่ายในนามมหาวิทยาลัยกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่มหาวิทยาลัยได้รับค่าผลิตเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น
ล่าสุด นางศิริพร บุญเจริญ สรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามสืบสวนภาษีจากการจำหน่ายนม ว่า สรรพากรได้จัดส่งทีมกำกับออกตรวจสอบข้อมูลทุกด้านอย่างเร่งด่วน ซึ่งตามขั้นตอนนั้น สรรพากรจะต้องเข้าไปติดตามตรวจสอบข้อมูล และเรียกผู้ที่รับการตรวจสอบมารับทราบผล และประเมินภาษีเงินได้ตามลำดับ ทีมกำกับอยู่ระหว่างลงพื้นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งหากมีข้อสรุปแล้วผู้ถูกประเมินยอมรับขั้นตอนจะรวดเร็วแต่ถ้าผู้ถูกประเมินไม่ยอมรับขั้นตอนจะยาวไปอีก แต่ยืนยันว่า ไม่ช้าเกินไปอย่างแน่นอน
“การดำเนินการนั้น จะทำอย่างรัดกุมและรอบคอบ ทั้งในส่วนของผู้ที่เป็นข่าวในขณะนี้ รวมทั้งผู้ที่รับเงินจาก อปท.ไปเข้าบัญชีอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเช่นกัน ซึ่งเส้นทางเงินไปถึงใคร มีการทำสัญญาซื้อขายอย่างไรกับ อปท.สืบต่อไปได้ถึงใครบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบมีภาระภาษีเพราะมีเงินได้ และการดำเนินการเช่นนี้ จะทำทั้งจังหวัดที่มีการจำหน่ายนมให้กับ อปท.และจะต้องดูต่อว่าสัญญามีการอำพรางไว้หรือไม่อย่างไร ใครจะเป็นผู้รับภาระภาษีนั้นจะเป็นเอกชนหรือมหาวิทยาลัยหรือไม่ ยังไม่ขอก้าวล่วงต้องรอหลักฐานที่ชัดเจนก่อน” สรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราช กล่าว
ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (4 มี.ค.) ความคืบหน้าในการติดตามความไม่ชอบมาพากลในโครงการนมโรงเรียน โดยเฉพาะการทำสัญญาของ นายเจริญ กับมหาวิทยาลัยชื่อดัง ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายนมโรงเรียน โดยอำพรางการจำหน่ายในนามมหาวิทยาลัยกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่มหาวิทยาลัยได้รับค่าผลิตเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น
ล่าสุด นางศิริพร บุญเจริญ สรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามสืบสวนภาษีจากการจำหน่ายนม ว่า สรรพากรได้จัดส่งทีมกำกับออกตรวจสอบข้อมูลทุกด้านอย่างเร่งด่วน ซึ่งตามขั้นตอนนั้น สรรพากรจะต้องเข้าไปติดตามตรวจสอบข้อมูล และเรียกผู้ที่รับการตรวจสอบมารับทราบผล และประเมินภาษีเงินได้ตามลำดับ ทีมกำกับอยู่ระหว่างลงพื้นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งหากมีข้อสรุปแล้วผู้ถูกประเมินยอมรับขั้นตอนจะรวดเร็วแต่ถ้าผู้ถูกประเมินไม่ยอมรับขั้นตอนจะยาวไปอีก แต่ยืนยันว่า ไม่ช้าเกินไปอย่างแน่นอน
“การดำเนินการนั้น จะทำอย่างรัดกุมและรอบคอบ ทั้งในส่วนของผู้ที่เป็นข่าวในขณะนี้ รวมทั้งผู้ที่รับเงินจาก อปท.ไปเข้าบัญชีอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเช่นกัน ซึ่งเส้นทางเงินไปถึงใคร มีการทำสัญญาซื้อขายอย่างไรกับ อปท.สืบต่อไปได้ถึงใครบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบมีภาระภาษีเพราะมีเงินได้ และการดำเนินการเช่นนี้ จะทำทั้งจังหวัดที่มีการจำหน่ายนมให้กับ อปท.และจะต้องดูต่อว่าสัญญามีการอำพรางไว้หรือไม่อย่างไร ใครจะเป็นผู้รับภาระภาษีนั้นจะเป็นเอกชนหรือมหาวิทยาลัยหรือไม่ ยังไม่ขอก้าวล่วงต้องรอหลักฐานที่ชัดเจนก่อน” สรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราช กล่าว