อาร์เอส เฟรชแอร์ เปิดแผนครึ่งปีหลัง ลุยหนักทั้งกิจกรรมดนตรี กีฬา ดันเป้ารายได้ตามที่ตั้งไว้ เล็งลงทุนสร้างสนามเอส-วัน อีก 2 สาขาในกรุงเทพฯ ก่อนออกหัวเมืองใหญ่ ล่าสุดผนึก เอ็ม-150 จัดแข่งขันฟุตบอล 7 คน
นายวินิจ เลิศรัตนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส เฟรชแอร์ จำกัด ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2551 นี้ บริษัทวางแผนที่จะจัดกิจกรรมทั้งรูปแบบดนตรีและกีฬาจำนวนมาก เพื่อผลักดันยอดรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะมีการจัดคอนเสิร์ตไม่น้อยกว่า 5 งาน เช่น คอนเสิร์ตวงหินเหล็กไฟ พบกับวงคลาสสิกของอิตาลี ซึ่งถือเป็นคอนเสิร์ตที่แหวกแนวตลาดทั่วไป และคาดว่า จะได้รับความสำเร็จอย่างดี นอกจากนั้น ยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ของคาราบาวที่โบนันซ่า เขาใหญ่ วินเตอร์เฟสช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้าที่เขาใหญ่
ส่วนกิจกรรมกีฬานั้นก็จะมีต่อเนื่อง โดยใช้สนามเอส-วัน ที่บริษัทลงทุนสร้าง เป็นพื้นที่หลักในการจัดกิจกรรม เช่น ช่วงเปิดเทศกาลฟุตบอลพรีเมียร์ของอังกฤษ เป็นต้น ซึ่งจะร่วมจัดกับพันธมิตรสปอนเซอร์ทั้งหลาย โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละงานคอนเสิร์ตจะต้องใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่องาน
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทจัดกิจกรรมดนตรีแล้วไม่ต่ำกว่า 4 งาน และกิจกรรมกีฬาประมาณ 2 งานแล้ว ล่าสุดคือ การร่วมมือกับเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม-150 ในการจัด “กิจกรรม M 150 U 7 Invitation Cup 2008” เป็นการแข่งขันฟุตบอล 7 คนในร่ม จาก 8 มหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2551 นี้
นายวินิจ กล่าวต่อถึง สนาม เอส-วัน ว่า ภายในช่วง 1 ปี นับจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้างสนามฟุตบอลในร่มขนาด 7 คน เอส-วัน อีก อย่างน้อย 2 สนาม ในกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการมองหาทำเลและวางแผนการลงทุน คาดว่า จะกระจายอยู่ตามชานเมือง ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบลงทุนไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทต่อแห่ง
หลังจากนั้น มีแผนที่จะลงทุนสร้างสนามเอส-วัน ในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดฟุตบอลในร่ม 7 คนที่มีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้น
ส่วนสนามเอส-วัน แห่งแรกที่ถนนบางนา-ตราด กม.4 พื้นที่ 8 ไร่ หลังจากเปิดให้บริการมาระยะหนึ่ง พบว่า ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มีลูกค้าจองคิวใช้สนามจำนวนมาก ทำให้บริษัทมั่นใจว่า สนามใหม่ที่จะก่อสร้างนั้นจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้
โดยสนามแห่งแรกนี้ คาดว่า จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี จึงจะคืนทุน หลังจากที่ลงทุนไปแล้วเกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งสาขาแรกนี้เป็นการเช่าที่ดินระยะยาว ซึ่งรายได้จะมาจาก สปอนเซอร์ ค่าเช่าสนาม และกิจกรรม โดยสปอนเซอร์หลักมี 5 ราย คือ ยามาฮ่า, เอ็ม-150, ไอโมบาย บายสามารถ, เนสกาแฟ, พานาโซนิค และโคสปอนเซอร์ อีก 3 ราย คือ ไนกี้ เบียร์ช้าง โค้ก
ส่วนค่าเช่าสนามนั้น เวลา 09.00-15.00 น.ราคา 1,300 บาทต่อชั่วโมง ส่วนเวลา 15.00-01.00 น.ราคา 1,500 บาทต่อชั่วโมง ในวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00- 01.00 น.ราคา 1,500 บาท
นายวินิจ เลิศรัตนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส เฟรชแอร์ จำกัด ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2551 นี้ บริษัทวางแผนที่จะจัดกิจกรรมทั้งรูปแบบดนตรีและกีฬาจำนวนมาก เพื่อผลักดันยอดรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะมีการจัดคอนเสิร์ตไม่น้อยกว่า 5 งาน เช่น คอนเสิร์ตวงหินเหล็กไฟ พบกับวงคลาสสิกของอิตาลี ซึ่งถือเป็นคอนเสิร์ตที่แหวกแนวตลาดทั่วไป และคาดว่า จะได้รับความสำเร็จอย่างดี นอกจากนั้น ยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ของคาราบาวที่โบนันซ่า เขาใหญ่ วินเตอร์เฟสช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้าที่เขาใหญ่
ส่วนกิจกรรมกีฬานั้นก็จะมีต่อเนื่อง โดยใช้สนามเอส-วัน ที่บริษัทลงทุนสร้าง เป็นพื้นที่หลักในการจัดกิจกรรม เช่น ช่วงเปิดเทศกาลฟุตบอลพรีเมียร์ของอังกฤษ เป็นต้น ซึ่งจะร่วมจัดกับพันธมิตรสปอนเซอร์ทั้งหลาย โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละงานคอนเสิร์ตจะต้องใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่องาน
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทจัดกิจกรรมดนตรีแล้วไม่ต่ำกว่า 4 งาน และกิจกรรมกีฬาประมาณ 2 งานแล้ว ล่าสุดคือ การร่วมมือกับเครื่องดื่มชูกำลัง เอ็ม-150 ในการจัด “กิจกรรม M 150 U 7 Invitation Cup 2008” เป็นการแข่งขันฟุตบอล 7 คนในร่ม จาก 8 มหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2551 นี้
นายวินิจ กล่าวต่อถึง สนาม เอส-วัน ว่า ภายในช่วง 1 ปี นับจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้างสนามฟุตบอลในร่มขนาด 7 คน เอส-วัน อีก อย่างน้อย 2 สนาม ในกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการมองหาทำเลและวางแผนการลงทุน คาดว่า จะกระจายอยู่ตามชานเมือง ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบลงทุนไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทต่อแห่ง
หลังจากนั้น มีแผนที่จะลงทุนสร้างสนามเอส-วัน ในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดฟุตบอลในร่ม 7 คนที่มีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้น
ส่วนสนามเอส-วัน แห่งแรกที่ถนนบางนา-ตราด กม.4 พื้นที่ 8 ไร่ หลังจากเปิดให้บริการมาระยะหนึ่ง พบว่า ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มีลูกค้าจองคิวใช้สนามจำนวนมาก ทำให้บริษัทมั่นใจว่า สนามใหม่ที่จะก่อสร้างนั้นจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้
โดยสนามแห่งแรกนี้ คาดว่า จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี จึงจะคืนทุน หลังจากที่ลงทุนไปแล้วเกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งสาขาแรกนี้เป็นการเช่าที่ดินระยะยาว ซึ่งรายได้จะมาจาก สปอนเซอร์ ค่าเช่าสนาม และกิจกรรม โดยสปอนเซอร์หลักมี 5 ราย คือ ยามาฮ่า, เอ็ม-150, ไอโมบาย บายสามารถ, เนสกาแฟ, พานาโซนิค และโคสปอนเซอร์ อีก 3 ราย คือ ไนกี้ เบียร์ช้าง โค้ก
ส่วนค่าเช่าสนามนั้น เวลา 09.00-15.00 น.ราคา 1,300 บาทต่อชั่วโมง ส่วนเวลา 15.00-01.00 น.ราคา 1,500 บาทต่อชั่วโมง ในวันจันทร์-ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00- 01.00 น.ราคา 1,500 บาท