นศ.มร.ภูเก็ตหวั่นน้ำไม่พอใช้ จัดโครงการ “เพิ่มคุณภาพชีวิตร่วมจิตพัฒนาอ่างเก็บน้ำ”

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นศ.กศ.บป.มร.ภูเก็ตร่วมกับประชาชนในพื้นที่จัดโครงการ "เพิ่มคุณภาพชีวิต ร่วมจิตพัฒนาอ่างเก็บน้ำ” หลังลงพื้นที่พบอ่างเก็บน้ำน้ำตกกะทู้มีสภาพเสื่อมโทรม หวั่นมีน้ำใช้ไม่เพียงพอช่วงหน้าแล้ง

วันนี้ (15 ก.พ.) ที่บริเวณน้ำตกกะทู้ หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ “เพิ่มคุณภาพชีวิต ร่วมจิตพัฒนาอ่างเก็บน้ำ” ซึ่งทางนักศึกษาภาค กศ.บป.ห้อง ภ.พฒ.504 ระดับปริญญาตรี โปรแกรมการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมกับประชาชนในพื้นที่จัดขึ้น โดยมีอาจารย์ผู้สอนนักศึกษาในโปรมแกรมวิชาดังกล่าว นักเรียนจากโรงเรียนบ้านไม้เรียบ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรน้ำ กลุ่มแม่บ้านน้ำตกกะทู้ และชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากสถานีอนามัยตำบลกะทู้มาให้บริการตรวจสุขภาพด้วย

นายชาติชาย เชื้อชิต ตัวแทนนักศึกษาฯ กล่าวถึงการจัดทำโครงการ “เพิ่มคุณภาพชีวิต ร่วมจิตพัฒนาอ่างเก็บน้ำ” ว่า จากการลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลของอ่างเก็บน้ำน้ำตกกะทู้ พบว่ามีสภาพเสื่อมโทรม ขาดการดูแล รวมทั้งปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ทำให้ปริมาณน้ำที่จะนำมาใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภคไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในชุมชน ด้วยสภาพของอ่างเก็บน้ำที่ตื้นเขิน อันเกิดจากการทับถมของตะกอนทรายและมีวัชพืชปกคลุม ทำให้เกิดการอุดตันน้ำไหลไม่สะดวก

“จากสภาพปัญหาที่พบดังกล่าวจึงได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะทำการพัฒนาพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำน้ำตกกะทู้ เพื่อให้ประชาชนภายในชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานและปฏิบัติกิจกรรม ตามโครงการเพิ่มคุณภาพชีวิต ร่วมจิตพัฒนาอ่างน้ำ สร้างจิตสำนึกให้เกิดความตระหนักรักหวงแหนและอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ในชุมชน สร้างเสริมให้ประชาชนรู้จักใช้น้ำให้เกิดประโยชน์ ประหยัดและรู้จักคุณค่าของทรัพยากรน้ำ” นายชาติชายกล่าว

สำหรับกิจกรรมที่มีการดำเนินการนั้น ประกอบด้วย การขุดลอกอ่างเก็บน้ำบริเวณน้ำตกกะทู้จำนวน 3 แห่ง ตัดหญ้าบริเวณอ่างเก็บน้ำและทางเข้า ทำความสะอาดท่อส่งน้ำและบริเวณโดยรอบอ่างเก็บน้ำ จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ วัฏจักรและคุณภาพน้ำ

ขณะที่ นายปรีชา กล่าวว่า การจัดโครงการของนักศึกษาดังกล่าวนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการกระตุ้นให้ประชาชนในชุมชนได้ตระหนักในคุณค่าของน้ำ เกิดจิตอนุรักษ์ในทรัพยากรที่มีอยู่ และรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าและสูงสุด เพราะปัจจุบันภูเก็ตเองก็ประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการขาดความเอาใจใส่ดุแลรักษาแหล่งน้ำที่มีอยู่ ซึ่งหากทุกคนร่วมมือกันก็เชื่อว่าจะทำให้สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวไปได้

สำหรับน้ำตกกะทู้ถือเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ ดังนั้นหากคนในชุมชนไม่ช่วยกันดูแลรักษาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะให้มาช่วย การที่จะโทษเพียงหน่วยงานภาครัฐ หรือให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งมารับผิดชอบคงไม่ได้ แต่จะต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ที่สำคัญคือจะต้องเรียนรู้เรื่องของธรรมชาติ และจะต้องไม่ไปทำลายธรรมชาติ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะหากวันใดที่เราทำลายธรรมชาติมากๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็อาจจะถูกธรรมชาติลงโทษและค่อนข้างที่จะรุนแรงด้วย