กระบี่ -นายกเทศมนตรี ชี้ขุมทรัพย์ลูกปัดโบราณ ใกล้สุสานใจกลางเมืองกระบี่ เกิดจากเรือขนสินค้าล่มจากคลื่นยักษ์สึนามิ ยุคศรีวิชัย
ตามที่ผู้สื่อข่าวได้รายงานข่าวว่า ได้มีชาวบ้านจำนวนมากแห่กันไปขุดหาขุมทรัพย์และลูกปัดมีค่าบริเวณนาร้างใกล้สุสานมุสลิมบ้านตลาดเก่า ถนนละงู ต.กระบี่ใหญ่ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ โดยบางคนขุดพบได้เม็ดลูกปัดสีต่างๆ บางคนก็ได้ ดาบ กำไล เศษหม้อดิน และแหวนทองคำ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นของโบราณที่ไม่สามารถหาได้ในปัจจุบัน
ล่าสุดนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวว่าสำหรับพื้นที่ที่มีการขุดพบลูกปัด และของโบราณ จากการฟังคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าหลายคน ทราบว่าบริเวณดังกล่าวเดิมเป็นลำคลองขนาดใหญ่ เชื่อมกับแม่น้ำจากทะเลบริเวณปากแม่น้ำกระบี่ ปัจจุบันกลายเป็นคลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งในอดีตได้มีเรือบรรทุกสินค้าจากมลายูเข้ามาจอดเทียบท่าขายสินค้าให้กับชาวกระบี่ แต่ถูกคลื่นยักษ์ซัดจนทำให้เรือจมหรือคลื่นสึนามิที่รู้จักกันในปัจจุบัน จึงทำให้ของมีค่าจมหายไปด้วยกับเรือด้วย
นายกีรติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับลูกปัดที่ชาวบ้านขุดพบ น่าจะเป็นลูกปัดสมัยโบราณยุคศรีวิชัย มีอายุกว่า 700 ปี สำหรับเทศบาลฯเองก็ยังไม่สามารถเข้าไปดูแลจัดการพื้นที่ได้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเอกชน ต้องให้เจ้าของพื้นที่เท่านั้นเป็นผู้จัดการ ซึ่งทราบว่าเจ้าของพื้นที่อยู่ที่กรุงเทพฯส่วนบริเวณใกล้เคียงที่บริเวณภูเขาพระ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร เคยมีชาวบ้านขุดพบเช่นกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวอย่างกรมศิลป์ยังไม่เข้ามาตรวจสอบ
ตามที่ผู้สื่อข่าวได้รายงานข่าวว่า ได้มีชาวบ้านจำนวนมากแห่กันไปขุดหาขุมทรัพย์และลูกปัดมีค่าบริเวณนาร้างใกล้สุสานมุสลิมบ้านตลาดเก่า ถนนละงู ต.กระบี่ใหญ่ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ โดยบางคนขุดพบได้เม็ดลูกปัดสีต่างๆ บางคนก็ได้ ดาบ กำไล เศษหม้อดิน และแหวนทองคำ ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นของโบราณที่ไม่สามารถหาได้ในปัจจุบัน
ล่าสุดนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวว่าสำหรับพื้นที่ที่มีการขุดพบลูกปัด และของโบราณ จากการฟังคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าหลายคน ทราบว่าบริเวณดังกล่าวเดิมเป็นลำคลองขนาดใหญ่ เชื่อมกับแม่น้ำจากทะเลบริเวณปากแม่น้ำกระบี่ ปัจจุบันกลายเป็นคลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งในอดีตได้มีเรือบรรทุกสินค้าจากมลายูเข้ามาจอดเทียบท่าขายสินค้าให้กับชาวกระบี่ แต่ถูกคลื่นยักษ์ซัดจนทำให้เรือจมหรือคลื่นสึนามิที่รู้จักกันในปัจจุบัน จึงทำให้ของมีค่าจมหายไปด้วยกับเรือด้วย
นายกีรติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับลูกปัดที่ชาวบ้านขุดพบ น่าจะเป็นลูกปัดสมัยโบราณยุคศรีวิชัย มีอายุกว่า 700 ปี สำหรับเทศบาลฯเองก็ยังไม่สามารถเข้าไปดูแลจัดการพื้นที่ได้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเอกชน ต้องให้เจ้าของพื้นที่เท่านั้นเป็นผู้จัดการ ซึ่งทราบว่าเจ้าของพื้นที่อยู่ที่กรุงเทพฯส่วนบริเวณใกล้เคียงที่บริเวณภูเขาพระ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร เคยมีชาวบ้านขุดพบเช่นกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวอย่างกรมศิลป์ยังไม่เข้ามาตรวจสอบ
