ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ผู้ว่าฯ สั่งอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต รื้อขุมเหมืองแก้ไขปัญหาน้ำจังหวัดภูเก็ต
วันนี้ (24 พ.ย ) ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางอรอนงค์ สุวัณณาคาร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วย นายอภิชัย อมรพิสุทธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อรับทราบนโยบายการทำงาน
นายปรีชา กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีความเจริญด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีอ่างเก็บน้ำอยู่เพียง 3 แห่ง คือ เขื่อนบางวาด ส่วนอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำและอ่างเก็บน้ำคลองกระทะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาน้ำภูเก็ตได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพบว่า จังหวัดภูเก็ตมีขุมเหมืองอยู่จำนวนมากซึ่งเป็นแหล่งเก็บกักน้ำชั้นดี ส่วนใหญ่เป็นของภาคเอกชน ซึ่งตนได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าไปสำรวจและนำมาสรุปให้ทราบเพื่อหาน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนต่อไป
นายอภิชัย กล่าวภายหลังการเข้าพบฯ ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดไปจัดรวบรวมรายละเอียดขุมเหมือง ที่หมดและยังไม่หมดสัมปทานเพื่อนำมาหารือในการจัดหาแหล่งน้ำให้กับประชาชนจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้จากการสำรวจ พบว่า ขุมเหมืองที่หมดสัมปทานแล้วมีจำนวน 11 แปลง และยังไม่หมดสัมปทานอีก 1 แปลง คือบริเวณพื้นที่ในอำเภอกะทู้ เนื้อที่ 200 ไร่เศษ โดยจะหมดสัมปทานในปี 2553 ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดฯ จะจัดทำรายละเอียดมาเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในคราวต่อไป
วันนี้ (24 พ.ย ) ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางอรอนงค์ สุวัณณาคาร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วย นายอภิชัย อมรพิสุทธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อรับทราบนโยบายการทำงาน
นายปรีชา กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีความเจริญด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีอ่างเก็บน้ำอยู่เพียง 3 แห่ง คือ เขื่อนบางวาด ส่วนอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำและอ่างเก็บน้ำคลองกระทะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาน้ำภูเก็ตได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพบว่า จังหวัดภูเก็ตมีขุมเหมืองอยู่จำนวนมากซึ่งเป็นแหล่งเก็บกักน้ำชั้นดี ส่วนใหญ่เป็นของภาคเอกชน ซึ่งตนได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าไปสำรวจและนำมาสรุปให้ทราบเพื่อหาน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนต่อไป
นายอภิชัย กล่าวภายหลังการเข้าพบฯ ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดไปจัดรวบรวมรายละเอียดขุมเหมือง ที่หมดและยังไม่หมดสัมปทานเพื่อนำมาหารือในการจัดหาแหล่งน้ำให้กับประชาชนจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้จากการสำรวจ พบว่า ขุมเหมืองที่หมดสัมปทานแล้วมีจำนวน 11 แปลง และยังไม่หมดสัมปทานอีก 1 แปลง คือบริเวณพื้นที่ในอำเภอกะทู้ เนื้อที่ 200 ไร่เศษ โดยจะหมดสัมปทานในปี 2553 ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดฯ จะจัดทำรายละเอียดมาเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในคราวต่อไป