นครศรีธรรมราช - "เทพไท"ยันหลักฐานต่างประเทศขึ้นบัญชีดำ"ทักษิณ"อยู่ในมือแล้ว ย้ำญี่ปุ่นห้ามเข้าฐานเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ส่วนจีนให้เข้าในฐานะนักท่องเที่ยว ระบุเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละประเทศจะเปิดเผยหรือไม่ เตือน"เพื่อไทย"ขู่ปลุกม็อบกดดัน-บอยคอตสินค้า กระทบความสัมพันธ์ ทำลายมารยาททางการทูต แนะตั้งกระทู้ถามในสภาดีกว่า
วันนี้ (7 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกส่วนตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี สมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมาท้าทายให้มีการเปิดเผยข้อมูลบัญชีดำการห้ามเข้าประเทศต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกที่อยู่ระหว่างหนีคดี ว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นกระแสข่าวจากประเทศต่างๆ ในการขึ้นบัญชีดำ พ.ต.ท.ทักษิณ มาโดยตลอด ตนจึงได้เช็คข้อมูลเหล่านี้ว่าเป็นจริงหรือไม่มากน้อยแค่ไหน และเมื่อมีการตรวจสอบจากแหล่งข่าวแล้ว พบข้อเท็จจริงว่า ญี่ปุ่นได้ขึ้นบัญชีเป็นบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ จีนอนุญาตให้เข้าประเทศได้ในฐานะนักท่องเที่ยวเท่านั้น
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงเหล่านี้การที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องเป็นเรื่องกระทรวงการต่างประเทศ และเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศต่างๆ ที่จะเปิดเผยหรือไม่เปิดเผยเพราะเป็นมารยาททางการทูต
"ทั้งหมดนี้ผมมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจนแต่ในชั้นนี้เกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาทที่นำมาเปิดเผย สมาชิกพรรคเพื่อไทยไม่ต้องเกรงกลัวว่า จะกระทบความสัมพันธ์จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเรารู้มารยาทเป็นอย่างดี แต่สมาชิกพรรคเพื่อไทยเองต้องระมัดระวังในการเคลื่อนไหวกดดันสถานทูตของประเทศต่างๆ ให้ออกมาชี้แจง รวมทั้งชักชวนประชาชนไม่ซื้อสินค้าจากบางประเทศ พฤติกรรมเหล่านี้ต่างหากที่สร้างความเสื่อมเสีย และเป็นเรื่องเสียหายในความสัมพันธ์ ถ้าต้องการทราบอย่างเป็นทางการขอแนะนำว่าให้มีการตั้งกระทู้ถามในสภาจะดีกว่า"นายเทพไทกล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่าในการตั้งกระทู้สดถามในสภานั้นหากเนื้อหากระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ สามารถที่จะขอให้มีการประชุมลับได้ สมาชิกพรรคเพื่อไทยต้องคำนึงถึงมารยาท และเอกสิทธิในอธิปไตยของประเทศนั้นๆ ในทางการทูตการตอบคำถามไม่มีประเทศไหนที่เขาระบุชัดเมื่อถูกถามในเรื่องเหล่านี้ ภาษาทางการทูตเขาจะบอกว่าไม่ยืนยัน และก็ไม่ปฏิเสธด้วย แต่ความเป็นจริงแล้วเมื่อมีข่าวอย่างนี้ จะเป็นจริงทุกเรื่องเช่นกรณีประเทศอังกฤษเพิกถอนวีซ่าทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์
"ดังนั้นความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคเพื่อไทยจึงเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยง การดำเนินการใด ๆ ควรคำนึงถึงประเทศชาติมากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และต้องเคลื่อนไหวอยู่ในขอบเขตเพื่อประเทศชาติ มาเวลานี้การเคลื่อนไหวกลายเป็นเลยเถิดของเขตของการเมืองในประเทศควรจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง" นายเทพไทกล่าวในที่สุด