ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มชาวบ้านอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ยังคงปักหลักชุมนุมประท้วงปิดถนนสายหลัก หาดใหญ่-สะเดา ซึ่งเป็นถนนสายหลักเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ถนนสายดังกล่าวยังเป็นอัมพาต ผู้ว่าฯสงขลารับปากให้คำตอบก่อน 13.00 น.วันนี้
วันนี้ (4 ก.พ.) กลุ่มชาวบ้านอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ยังคงปักหลักชุมนุมประท้วงคัดค้านการนำถ่านหินมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตถุงมือยางของบริษัทเซฟสกินฯ โดยการปิดถนนเส้นทางหลักสายหาดใหญ่-สะเดา ซึ่งเป็นถนนสายหลักเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย ทำให้ถนนสายดังกล่าวยังเป็นอัมพาต แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีการปล่อยให้รถขนส่งสินค้าที่จะข้ามไปประเทศมาเลเซียผ่านไปได้บางส่วนและเริ่มปิดถนนอีกครั้งเมื่อเช้าวันนี้ ล่าสุดรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
นายสวัสดิ์ เพ็ชรแก้ว ประธานชมรมต่อต้านการใช้ถ่านหิน กล่าวว่า เมื่อวาน (3 ก.พ.) ตอนเย็น นายสนธิ เตชานันทน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วและตัวแทนผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีข้อเรียกร้องทั้งหมด 3 ข้อ คือ
1.ให้โรงงานผลิตถุงมือยาง หรือบริษัท เซฟสกินฯ หยุดใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต
2.เรียกร้องให้ทางโรงงานขนย้ายถ่านหินที่มีอยู่ในโรงงานในขณะนี้ออกให้หมดภายในเวลาที่กำหนด
3.เรียกร้องให้หน่วยงานราชการ หรือบริษัท เซฟสกิน ไม่เอาผิดกับผู้ร่วมชุมนุมไม่ว่ากรณีใดๆ หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดทราบข้อเสนอก็ได้บอกกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมว่า จะรับข้อเรียกร้องไปพิจารณาเพียงข้อเดียวเท่านั้นคือข้อ 1 และจะให้คำตอบกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมก่อนเวลา 13.00 น.วันนี้
นายสวัสดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของศาลปกครองซึ่งได้ยื่นหนังสือคัดค้านเรียกร้องให้ศาลปกครองยกเลิกคำสั่งอนุญาตให้โรงงานเซฟสกิน ทดลองใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตเป็นเวลา 6 เดือนนั้น ซึ่งจะได้คำตอบภายในเวลา 13.00 น.วันนี้เช่นเดียวกัน
