ตรัง – ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเตรียมตั้งคณะกรรมการติดตามพระสิหิงค์ พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดตรังที่สูญหายไปจากวัดหัวถนนกว่า 26 ปีมาแล้ว
จากกรณีที่ ว่าที่ ร.ต.ชาญยุทธ เกื้ออรุณ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง ได้ทำหนังสือส่งถึง นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อให้แต่งตั้งคณะทำงานติดตามพระพุทธสิหิงค์ พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดตรัง ที่สูญหายไปจากวัดหัวถนน ตำบลนาพละ อำเภอเมืองตรัง เมื่อปี 2526 หรือกว่า 26 ปีมาแล้ว กลับคืนมา
เพราะแม้ในหลายผู้ว่าราชการจังหวัดตรังในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามพระพุทธสิหิงค์กลับคืนมา แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า และเรื่องก็ยังเงียบหายไปจนถึงทุกวันนี้ กระทั่งล่าสุด นายชาญยุทธ ได้รับการติดต่อจากญาติๆ ของอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กระทรวงมหาดไทยท่านหนึ่ง ถึงการนำองค์พระกลับคืนมาสู่จังหวัดตรัง
วันนี้ (3 ก.พ.) พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ (พระอารามหลวง) จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า อาตมาเอง รวมทั้งพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป จำรูปพรรณสัณฐานพระพุทธสิงห์ได้ดี หากว่าพบที่ไหนก็พร้อมเดินทางไปพิสูจน์ และดีใจที่ทางฝ่ายต่างๆ จะหันมาสืบเสาะให้กลับคืนมาสักที แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจจะยาก เพราะพระพุทธรูปองค์นี้มีราคาสูง เกรงว่าข่าวที่ออกไปอาจจะทำให้มีการปกปิดข่าวขึ้น
“โดยในอดีตอาตมาเองก็เคยปรารถว่าอยากให้นำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดกะพังสุรินทร์ เนื่องจากมีระบบดูแลรักษาที่ดีกว่า แต่ชาวบ้านไม่ยอม จนกระทั่งได้หายไปในที่สุด ซึ่งก่อนหายมีการเล่าว่า ท่านเจ้าอาวาสได้ไปงานศพข้างวัด แต่พอกลับมาจึงพบว่าหายไป ซึ่งไม่ทราบว่าเท็จจริงแค่ไหน เนื่องจากเจ้าอาวาสรูปนั้น หรือผู้ที่น่าจะเกี่ยวข้องก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพรหมจริยาจารย์ ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดตรัง ในยุคนั้น ก็ได้ออกสืบหาข่าวการหายไปขององค์พระด้วยเช่นกัน ทั้งตามแหล่งต่างๆ ที่มีข่าว หรือในจุดที่มักจะมีการซื้อขายองค์พระในกรุงเทพฯ แต่ก็คว้าน้ำเหลว เพราะไม่มีหลักฐานข้อมูลเพียงพอ สิ่งที่พอจะยืนยันได้ก็เห็นจะมีเพียงรูปถ่ายองค์จำลองในแบบต่างๆ รวมทั้งพยานบุคคลที่เป็นทั้งพระภิกษุและชาวบ้าน
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยุคนั้น ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร จนกระทั่งเกิดเป็นข่าวว่า ไปอยู่ที่บ้านอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็ได้มีหลายคนพยายามเข้าไปพิสูจน์ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสแน่ชัด ส่วนคุณหญิง “ม” ก็ได้ออกมาปฏิเสธ แต่ท้ายสุดก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่ชัดเจน
นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสรรหาบุคคลที่เหมาะสม เข้ามาร่วมเป็นคณะทำงานติดตามพระพุทธสิหิงค์กลับคืนมา ทั้งนี้ ทางจังหวัดอยากได้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องพระพุทธรูป เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการตรวจสอบองค์พระ ซึ่งคาดว่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ได้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ผู้ที่มีข้อมูลหรือมีเบาะแส ช่วยแจ้งรายละเอียด ภาพถ่าย หรือหลักฐานต่างๆ มายังทางจังหวัด เพื่อช่วยให้การติดตามพระพุทธสิหิงค์กลับคืนมาได้ง่ายขึ้น