ฉะเชิงเทรา - พ่อเมืองแปดริ้วผวาม็อบต้านโรงไฟฟ้านอนรอข้ามคืนล้อมศาลายันรุ่งเช้ารุดเจรจาด้วยแล้ว พร้อมยอมรับเป็นผู้ออกหนังสือสั่งการทั้งสองฉบับเอง ก่อนยอมที่จะยกเลิกคำสั่งฉบับหลังที่ซ้ำซ้อนหลังถูกกดดันอย่างหนัก โดยให้ยึดถือตามหนังสือฉบับแรกไปก่อนที่จะนัดประชุมแก้ไขเพิ่มเติมในวันรุ่งขึ้น ขณะด้านแกนนำผู้ชุมนุมเตรียมนัดสาบานตนต่อหน้าองค์หลวงพ่อโสธร แสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่ถุกกล่าวหาว่า มีผู้จ้างวานให้เคลื่อนไหวคัดค้านโรงไฟฟ้า
เมื่อค่ำวานนี้ (28 ก.ค.) นายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาพบปะกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางคล้า (เสม็ดเหนือ-เสม็ดใต้) อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ที่เตรียมพร้อมที่จะปักหลักชุมนุมนอนค้างแรมข้ามคืน เพื่อรอพบผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราให้จงได้จนถึงรุ่งเช้าวันนี้นั้น
นายอานนท์ พรหมนารท ยอมรับว่าเป็นผู้ออกหนังสือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ฉบับที่สองออกไปเอง เนื่องจากคณะกรรมการในฉบับเดิมบางรายของฝ่ายบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้เข้ามาอ้างว่าไม่เคยได้รับการติดต่อให้เข้ามาเป็นตัวแทนของฝ่ายบริษัท จึงได้มาขอถอนชื่อออกไปจากคณะกรรมการฝ่ายของบริษัทโรงไฟฟ้าเอกชน จึงได้มีการนำเอารายชื่อของผู้นำชุมชนในพื้นที่อื่น เขตอำเภอใกล้เคียงเข้ามาเป็นคณะกรรมการแทน และออกหนังสือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหม่ เป็นฉบับที่สอง ตามขึ้นมาพร้อมกับได้ยกเลิกหนังสือคำสั่งในฉบับแรกลง
หลังจากนายอานนท์ ชี้แจงเสร็จสิ้นได้พยายามขอร้องให้แกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าเสม็ดเหนือสลายการชุมนุม แต่แกนนำที่มาชุมนุมยังไม่ยินยอม และพึงพอใจต่อคำชี้แจงดังกล่าวของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีทีท่าที่จะปักหลักชุมนุมนอนเฝ้าศาลากลางจังหวัดต่อไป
โดยได้ยื่นข้อเสนอให้จังหวัดยกเลิกหนังสือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ฉบับที่สองลงด้วย และให้ยืดถือฉบับที่ 1 ไว้เป็นหลัก และให้มีการประชุมแก้ไข คำสั่งฉบับแรกในการสรรหาคณะกรรมการฝ่ายบริษัทชุดใหม่มาทำการแทนผู้ที่ขอถอนตัว ซึ่งนายอานนท์ ได้รับปากต่อผู้ชุมนุมว่า จะได้เรียกประชุมเพื่อทำการแก้ไขคำสั่งในช่วงรุ่งเช้าวันนี้ แกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้า จึงได้ยอมสลายตัวไปในที่สุด
ด้าน นายวรรณา รอดพิทักษ์ แกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า ในวันนี้จะได้นัด คณะกรรมการไตรภาคีฝ่ายชาวบ้านทั้ง 16 คนมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ สาบานตนต่อหน้าองค์หลวงพ่อโสธร พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวแปดริ้วในเวลา 09.00 น.หลังจากถูกอีกฝ่ายปล่อยข่าวโจมตีว่า กลุ่มชาวบ้านที่ออกมาเคลื่อนไหว ได้รับเงินค่าตอบแทนสูงถึงคนละ 8,000 บาทจนสร้างความไขว่เขวให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น
ตนขอยืนยันว่า ทุกคนที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้นล้วนมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นคนในพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากโรงไฟฟ้า ส่วนเงินที่นำมาใช้จ่ายในการเคลื่อนไหวนั้น ล้วนเป็นเงินที่ได้รับจากการลงขันกันเอง และเป็นเงินที่ได้จากการตั้งโต๊ะ และตู้รับบริจาค
