“หมอพรทิพย์” ตรวจแผลชาวโรฮิงยาที่ระนองระบุถูกตีด้วยแส้

ระนอง- “ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์” เดินทางลงพื้นที่จังหวัดระนอง ตรวจบาดแผลชายชาวโรฮิงยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่โรงพยาบาลระนอง ระบุถูกทหารพม่าใช้แส้ทุบตี ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามหลักสิทธิมนุษยชนก่อนส่งกลับ

วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง และนายโสภณ ยิ้มปรีชา ผบ.เรือนจำจังหวัดระนอง

เดินทางไปยังโรงพยาบาลระนองเพื่อสอบถามข้อมูลและตรวจบาดแผลของชายชาวโรฮิงยา ที่พักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย ซึ่งถูกระบุว่าถูกทหารพม่าทุบตี จำนวน 4 คน คือ นายมามัดฟาตี อายุ 35 ปี, นายมามัดจอคิด อายุ 24 ปี, นายโซตมีน อายุ 20 ปี และนายนูลูโกบี อายุ 25 ปี เนื่องจากทั้ง 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัสมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง และอักเสบรุนแรง

โดยเฉพาะนายโซตามีนมีบาดแผลฉกรรจ์ที่โคนขา และหลังเท้าขวา จึงจำเป็นต้องนำตัวออกจากเรือนจำมารักษา ซึ่งก็ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว ขณะที่นายมามัดฟาตีซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาถึงกับหลั่งน้ำตาและยกมือไหว้ขอบคุณผู้ที่ไปเยี่ยม และให้การรักษาอาการบาดเจ็บของพวกตนเอง

จากนั้นแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และกองทัพ มอบหมายให้มาประเมินว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งจากการตรวจบาดแผลผู้ที่บาดเจ็บ มีทั้งหมด 66 คน และสอบถามผ่านล่ามให้การตรงกันว่า ทั้งหมดถูทหารพม่าทำร้ายตีด้วยแส้ บางคนแผลลึกมาก และอักเสบ บางคนถูกความร้อนโดยการใช้ผ้าชุบน้ำมัน แล้วใช้จี้ ซึ่งบาดแผลมีมาแล้วกว่า 10 วัน มี 4 คน บาดเจ็บรุนแรง ซึ่งต้องรักษาจนกว่าบาดแผลจะหาย

หลังจากทั้งหมดพ้นช่วงเวลาคุมขังแล้วจะยังไม่ส่งตัวกลับประเทศทันที ต้องดูแลรักษาจนกว่าจะหายดีทุกคน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนยังได้ลงพื้นที่ไปยังเกาะทรายแดงที่ถูกระบุว่า เป็นสถานที่ควบคุมตัวชาวโรฮิงยาก่อนถูกผลักดันทางเรือออกนอกประเทศ ซึ่งก็ไม่พบร่องรอยอะไรที่บ่งบอกว่าทหารไทยใช้ความรุนแรงกับชาวโรฮิงญา พบเพียงอาหารและน้ำดื่มเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้ไปดูเรือที่ชาวโรฮิงยา ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางอพยพ พบว่าถูกทำลายทิ้งโดยชาวโรฮิงยาเอง เพระไม่อยากเดินทางต่อไปไหนอีก

ด้าน นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหัดระนอง กล่าวว่า เมื่อมีชาวต่างชาติหลบหนีเข้ามาในลักษณะที่มีปัญหา หรือเดือดร้อน ทางราชการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายทหารตำรวจ ฝ่ายปกครองโรงพยาบาลระนอง พร้อมที่จะดูแลเป็นอย่างดีตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งเห็นได้จากการปฏิบัติทั้ง 3 วันที่ผ่านมาได้ดูแลผู้บาดเจ็บทุกคนเป็นอย่างดี หลังจากนี้ก็พร้อมที่จะดูแลต่อไป โดยเฉพาะ 4 คนที่บาดเจ็บสาหัส ก็เอาออกจากเรือนจำมารักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายเราพร้อมที่จะดูแลทุกคน

เช่นเดียวกับนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลระนอง ได้ให้การรักษาชาวโรฮิงญาทุกคน ที่ได้รับบาดเจ็บโดยไม่คิดมูลค่าใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าบาดแผลจะหายดี ปฏิบัติเช่นเดียวกับคนไทย

ส่วนนายโสภณ ยิ้มปรีชา ผบ.เรือนจำจังหวัดระนอง กล่าวว่า เรือนจำได้ควบคุมตัวชาวโรฮิงยาไว้เป็นสัดส่วน แยกออกจากการควบคุมตัวจากผู้ต้องขังชาวพม่า เนื่องจากไว้รวมกันไม่ได้ เพราะคน 2 กลุ่มนี้ ไม่ถูกกันอาจจะทำร้ายกันได้

ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ไม่หนักมากทางเรือนจำ ได้ประสานกับโรงพยาบาลระนอง ให้ส่งแพทย์และพยาบาลเข้าไปดูแลรักษาถึงในเรือนจำ แต่ถ้าอาการหนัก ก็จะนำตัวออกมารักษาในโรงพยาบาล