สถานพินิจฯ ยะลาให้ญาติเยี่ยมผู้ถูกควบคุมทางวิดีโอทางไกล

ยะลา - สถานพินิจยะลาย่อโลกให้แคบลง เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองสื่อทางไกล ตามโครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดช่องว่างระหว่างเด็กกับครอบครัวให้น้อยลง เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายคมกฤช ศิริตระกูล ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า โครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบวีดิโอทางไกลนั้น เป็นนโยบายของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้ให้สำนักงานสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลาจัดทำขึ้น เป็นโครงการนำร่องในการอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารและให้บริการพ่อแม่ ผู้ปกครองในการเยี่ยมบุตรหลานที่ถูกควบคุมตัวนอกเขตภูมิลำเนาของ จ.ยะลา คือ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา เพื่อลดช่องว่างระหว่างเด็กกับครอบครัวให้น้อยลง และเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ความไม่เข้าใจระหว่างรัฐกับประชาชนและด้วยความห่างไกลของพื้นที่ ความไม่ปลอดภัยของประชาชน ตลอดจนปัญหาทางเศรษฐกิจ จึงมีนโยบายการเยี่ยมเยียนเด็กได้มีการพัฒนามากกว่าเดิม ด้วยการให้เด็กและเยาวชนได้มีการเข้าใกล้ชิดผู้ใหญ่ ด้วยวิธีการเยี่ยมทางไกล ทำให้การเยี่ยมและพบปะระหว่างผู้ปกครองกับเด็กได้ง่ายขึ้น และรับรู้ความรู้สึกของลูกตัวเองทุกวันได้ ที่เขาต้องการ ผู้ปกครองจะได้มีความรู้สึกว่าลูกเขาระหว่างถูกควบคุมตัวมีการพัฒนาที่ดีขึ้น หากลูกไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกรังแก เขาสามารถที่จะฟ้องผู้ปกครองได้ และผู้ปกครองสามารถที่จะถ่ายทอดมายัง จนท.ได้

ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้น ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยู่ในความดูแลของสถานพินิจฯ ในส่วนของจังหวัดยะลา ในปี 2551 จำนวน 480 คดี แยกเป็นอำเภอเบตง จำนวน 100 กว่าคดี ถือว่าจำนวนคดีได้เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด รองลงมาเป็นคดีลักทรัพย์ และคดีความมั่นคง

ด้าน นางยีลาคอ ซาซู อยู่หมู่ที่ 2 ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา กล่าวภายหลังได้พูดคุยกับลูก ซึ่งถูกควบคุมตัวที่ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวงชน จ.ปัตตานี ในคดีความมั่นคง ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สำนักงานสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ยะลา ที่ใช้ระบบเยี่ยมญาติผ่านระบบวิดีโอทางไกล ซึ่งเป็นการประหยัดเวลา และเงินทองในการเดินทางไปเยี่ยมด้วยตนเอง และความสะดวกมากขึ้น ที่สำคัญเราสามารถสอบถามความเป็นอยู่ของลูกได้ตลอดเวลา หากเราต้องการพูดคุยกับลูกก็เดินทางมายังสำนักงานสถานพินิจฯ ทางเจ้าหน้าที่ให้บริการทันที ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่รัฐเปิดโอกาสกับประชาชนในลักษณะอย่างนี้