ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจส่ง “นปพ.” บุกจู่โจมเข้าควบคุมตัว 40 แกนนำ เยาวชนที่ก่อเหตุจลาจลเผาอาคารศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ โคราช สามารถควบคุมระงับการก่อเหตุรุนแรงได้แล้ว ส่วนเด็กที่เหลือได้แยกนำไปฝากขังในสถานพินิจฯ ฝั่งตรงข้าม ผู้ปกครองแห่มาติดตามดูบุตรหลานด้วยความเป็นห่วง เผยทุบกำแพงหลบหนีไป 66 รายตามกลับมาได้แล้ว 34 ราย ระบุ สาเหตุอ้างไม่พอใจย้าย ผอ.คนเก่าและคนใหม่บังคับใช้กฎระเบียบอย่างเข้มงวด เบื้องต้นสำรวจความเสียหายอาคารถูกเผายับกว่า 10 หลัง ทรัพย์สินถูกรื้อค้นทุบทำลายสูญหลาย 10 ล้าน
วันนี้ (6 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ เด็กและเยาวชนชายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร่วม 500 คน ก่อเหตุจลาจลเผาตัวอาคารและทำลายทรัพย์สินภายในศูนย์ฝึกฯ ได้รับความเสียหายตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (5 ธ.ค.) นั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์และระงับการก่อเหตุไว้ได้แล้ว หลังจากเมื่อเช้าวันนี้ (6 ธ.ค.) เวลา 06.00 น.ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวนหนึ่งบุกจู่โจมเข้าไปภายในศูนย์ฝึกฯ ทำการควบคุมตัวแกนนำเด็กและเยาวชนที่ก่อเหตุจำนวน 40 คน ล้วนเป็นเด็กเยาวชนในเรือนนอนที่ 5 ซึ่งเป็นกลุ่มแกนนำก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ และควบคุมตัวแกนนำดังกล่าวแยกไปฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ส่วนเด็กเยาวชนที่เหลือเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรี ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้แยกกลุ่มออกจากกันแล้วนำตัวไปควบคุมตัวไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามศูนย์ฝึกฯ ที่เกิดเหตุจำนวน 140 คน ด้วยการให้เข้าแถวเดินเท้าไปเป็นกลุ่มใหญ่ท่ามกลางการควบคุมของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด และอีกประมาณกว่า 120 คน ได้สมัครใจที่จะพักอยู่ภายในศูนย์ฝึกฯ ที่เกิดเหตุ แม้อาคารเรือนนอนจะถูกเผาได้รับความเสียหายและบางพื้นที่ยังมีไฟไหม้คุกรุ่นอยู่ ก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเด็กเยาวชนจำนวน 66 คน ได้หลบหนีออกไปจากศูนย์ฝึกฯ โดยการทุบกำแพงรั้วด้านข้างเป็นรูขนาดใหญ่จำนวน 2 แห่ง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวกลับคืนมาได้แล้วจำนวน 34 คน
ขณะที่ผู้ปกครองเด็กและเยาวชนหลังทราบข่าวการก่อเหตุรุนแรงได้พากันเดินทางมาติดตามดูบุตรหลานด้วยความเป็นห่วงเป็นจำนวนมากเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย บางรายถึงกับร้องไห้เมื่อไม่พบบุตรหลานของตัวเอง และพยายามเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กันวุ่นวาย ด้าน พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับสาเหตุของการก่อจลาจลครั้งนี้ จากการสอบสวนกลุ่มแกนนำเด็กเยาวชนที่ก่อเหตุเบื้องต้น ให้การอ้างว่า ไม่พอใจการย้าย นายสุรกิจ อังกุรรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ คนเดิม แล้วแต่งตั้งให้ นางทัศนวิไล ไกรนรา มาดำรงตำแหน่ง แทน และผู้อำนวยการคนใหม่ได้บังคับใช้กฎระเบียบอย่างเข้มงวดมากจนเกินไป และไม่อนุญาตให้เด็กเยาวชนนำสิ่งของเข้าไปภายในศูนย์ฝึกฯ อย่างเด็ดขาด
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นในการก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อาคารภายในบริเวณศูนย์ฝึกฯ ถูกเผาทำลาย รื้อค้นและนำทรัพย์สินต่างๆ ออกมาทุบทำลายเสียหายจำนวนกว่า 10 หลัง โดยในจำนวนนี้มีอาคารถูกเผาเสียหายทั้งหลังจำนวน 3 หลัง คือ อาคารที่ทำการเจ้าหน้าที่, อาคารสถานแรกรับ และ อาคารฝึกอบรม ซึ่งเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าศูนย์ฝึกฯ ประเมินมูลค่าความเสียหายจำนวนหลาย 10 ล้านบาท
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตามเด็กและเยาวชนที่ยังหลบหนีอยู่ ส่วนภายในศูนย์ฝึกและอบรมฯ สถานที่เกิดเหตุไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนเข้าไปอย่างเด็ดขาด มีเพียงเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและสำรวจความเสียหายเท่านั้น
ด้าน นางทัศนวิไล ไกรนรา ผู้อำนวยการศึกฝึกและอบรมฯ คนใหม่ที่ถูกเด็กและเยาวชน ระบุว่าเป็นสาเหตุของการก่อเหตุรุนแรงเผาอาคารสถานที่เสียหายจำนวนมากครั้งนี้ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลรายละเอียดและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยสิ้นเชิง ตอบเพียงว่าไม่ทราบๆ เท่านั้น