“สุเทพ” มั่นใจ ครม.พิเศษพร้อมแก้ปัญหา จชต.ได้

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองนายกฯ “สุเทพ” มั่นใจคณะรัฐมนตรีพิเศษสามารถแก้ปัญหาชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้ใช้วิธีการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตไปด้วยกัน พร้อมไม่หวั่นหากฝ่ายค้านจะโจมตีเรื่องการนำคนของพันธมิตรฯเข้ามาดำรงตำแหน่งในรัฐบาล และเปิดโอกาสให้คนนอกที่เป็นคนดีและพร้อมสละเวลาเข้ามาทำงานร่วมกัน

วันนี้ (14 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีฌาปนกิจศพ นายวิโรจน์ อารีรอบ บิดาของ นายเรวัติ อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต ที่วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) เกี่ยวกับการจัดตั้ง ครม.พิเศษแก้ปัญหา 5 จังหวัดชายแดน ว่า เพราะรัฐบาลเห็นความสำคัญของภูมิภาคนี้ และตั้งใจที่จะระดมกำลังเข้ามาแก้ไขปัญหา เพื่อให้ความไม่สงบทั้งหลายได้บางเบา กระทั่งกลับคืนเข้าสู่สภาพปกติให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะมีบุคคลวิพากย์ วิจารณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลเองก็จะน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว เพียงแต่ทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่จะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่เขต 3 จังหวัดภาคใต้

สำหรับคณะรัฐมนตรีพิเศษ จะประกอบด้วย รัฐมนตรีในกระทรวงที่เราพิจารณาเห็นว่าจะมีหน้าที่โดยตรงในการที่ฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนได้ และท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้ลงมาเป็นประธานคณะรัฐมนตรีชุดนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นการให้ความสำคัญของปัญหาอย่างชัดเจน

นายสุเทพ กล่าวถึงปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องรีบแก้ไขในพื้นที่เขต 3 จังหวัดภาคใต้ ด้วยว่า จะมีการดำเนินการไป 2 อย่างพร้อมๆ กัน อย่างแรกเป็นเรื่องของการดูแลให้เกิดความปลอดภัย อย่างที่สอง คือ ในส่วนของการพัฒนา ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

สำหรับในกรณีของการแต่งตั้งผู้เคยขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชนมาดำรงตำแหน่งรัฐบาลนั้น นายสุเทพ ได้ชี้แจงว่า ในเวทีพันธมิตรฯมีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งที่อยู่บนเวทีและข้างเวที ทั้งที่อยู่ตามต่างจังหวัด แต่ว่ารัฐบาลก็ไม่ได้ใส่ใจกับบุคคลเหล่านั้น ซึ่งการที่นำบุคคลเหล่านั้นมาดำรงตำแหน่งรัฐบาล เพราะว่าบุคคลเหล่าเคยทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน และพรรคก็ได้เห็นแล้วว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ เมื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแล้วจะสามารถทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนและประเทศชาติได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากคนของพรรคแล้ว ทางพรรคได้มีสรรหาจากบุคคลภายนอก ถ้าเห็นแล้วว่าบุคคลนั้นมีความตั้งใจจริงที่จะร่วมทำงานกับรัฐบาลและพร้อมที่จะอุทิศตัวเอง อุทิศเวลา ทางพรรคก็เปิดโอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นประเด็นให้ฝ่ายค้านโจมตีหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า เป็นเรื่องธรรมดาของฝ่ายค้านที่จะไม่พอใจรัฐบาล และจะต้องวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พรรคก็จะรับฟังให้ความนับถือแก่ความคิดเห็นเหล่านั้น เพื่อจะได้คอยระมัดระวังตัวเองหรือจะเป็นกระจกสะท้อนการทำงานของรัฐบาล