ยะลา - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายแก่หน่วยงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเข้ารับตำแหน่ง
วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ให้แก่หน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
ทั้งนี้มี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อละผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา, นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้ว่าราชการจังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ สงขลา ตลอดจน ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจ และหน่วยกำลังในพื้นที่ให้การต้อนรับ และ ร่วมเข้าประชุม
สำหรับการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้จะได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.กิตติ อินทสร เสนาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นผู้บรรยาย โดยห้ามสื่อมวลชนเข้ารับฟังการประชุม
ส่วนในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ จะเดินทางไปที่วัดปิยาราม ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการสภาสันติสุขตำบลของหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 22 จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่และประชาชน ที่ดำเนินงานในโครงการฟาร์มตัวอย่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ บ้านน้ำดำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายแก่หน่วยงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา หลังเข้ารับตำแหน่งประกอบกับต้องการมาติดตามผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายผลเรือน
ทั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันในการแก้ปัญหาความไม่สงบ ให้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำความสันติสุขกลับมาในพื้นที่โดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมานั้นการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ถูกต้องแล้ว ที่ใช้รูปแบบการเมืองนำการทหาร เพียงแต่ในพื้นที่ยังคงขาดเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย ในการตรวจสอบค้นหา จับกุมความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งทางรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้าน เมื่อมีการร้องขอ