นครศรีธรรมราช – ตำรวจทางหลวงรวบผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า 10,000 เม็ด รับสารภาพรับจ้างส่งยาบ้าให้ผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายถูกศาลตัดสินประหารชีวิต ซึ่งปัจจุบันยังจำคุกอยู่ในเรือนจำบางขวาง เพื่อส่งต่อให้ลูกค้า พร้อมรวบลูกค้าซื้อยาบ้ารับสารภาพ สั่งซื้อยาบ้าจากนักโทษในเรือนจำบางขวางจริง
วันนี้ (7 ม.ค.) พ.ต.อ.วีระชัย วิชัยธนพัฒน์ ผู้กำกับการกลุ่มงานป้องกันและปราบปรามฯ รักษาการผู้กำกับการตำรวจทางหลวง 7 บังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมด้วย พ.ต.ต. บรรพต เดชมา สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 7 บังคับการตำรวจทางหลวง ได้นำตัว นายไชยฤกษ์ หรือ เดียร์ คงศักดิ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 4 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช, นายเอกชัย ราชคงแก้ว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 5 ต.ไสหร้า อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
นางดารา ราชคงแก้ว อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 309 หมู่ที่ 9 ต.ไสหร้า อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช, นายพยุงศักดิ์ หรือ ปลา ยอดไกร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 ซอย 2 ถ.ท่าพรุวิทยา ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา, นายภูมิพันธุ์ เสริมสกุลชาติ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ที่ 8 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง
พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้ารวม 10,000 เม็ด รถยนต์เก๋งโตต้าวีออสสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน, รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีเขียวตอนเดียว หมายเลขทะเบียน บว 3541 สงขลา 1 คัน เงินสด จำนวน 9,500 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม โดยมีเงินสดในธนาคารคงเหลือ 121,014 บาท อาวุธปืนขนาด .38 ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 3 นัด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อม สร้อยคอทองคำพระเลี่ยมทอง 2 เส้น
พ.ต.อ.วีระชัย วิชัยธนพัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจทางหลวงได้ตรวจพื้นที่ บนถนนหลวงหมายเลข 4016 ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พบ นายไชยฤกษ์ หรือ เดียร์ คงศักดิ์ ขับรถเก๋งโตต้าวีออสสีดำไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน โดยมี นายเอกชัย ราชคงแก้ว นั่งคู่มาด้านข้างคนขับ และนางดารา ราชคงแก้ว นั่งอยู่เบาะหลัง
รถคันดังกล่าวมีพฤติกรรมน่าสงสัย จึงเรียกตรวจค้น พบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลตั้งอยู่เบาะหลังตรวจค้นภายใน พบยาบ้าจำนวนมากบรรจุอยู่ในถุงสีฟ้า ดั่งกล่าวซุกซ้อนอยู่ในกระเป๋าเจ้าหน้าที่จึงรวบตัวบุคคลทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง นำตัวไปทำการสืบสวน พบของกลางเพิ่มเติม คือ สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม โดยเป็นของ นายเดียร์ มีเงินคงเหลือในบัญชี 121,014 บาท และสมุดบัญชี ของ นางดารา มีเงินเหลือในบัญชี 92,824 บาท ใบบันทึกรายการ เบิกถอนเงิน 2 ใบ โทรศัพท์มือ 2 เครื่อง
เบื้องต้น นายเดียร์ ยอมรับว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยร่วมกับ นายเอกชัย และ นางดารา ไปรับมาจากหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20 ปี โดยนำมาส่งที่หน้าห้างโรบินสัน ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อจะนำส่งให้ นายปลา ไม่ทราบนามสุกล จำนวน 4,000 เม็ด โดยจะมีการนัดหมายกันทางโทรศัพท์ ส่วนยาบ้าที่เหลืออีก 6,000 เม็ด ที่เหลือจะนำไปส่งลูกค้าที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี วิธีการส่งจะเหมือนกับรายของนายปลา
นายเดียร์ ยังยอมรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้ค่าจ้างจากการส่งยาบ้าในแต่ละครั้งจาก นายวัชระ หรือ ยาว ประพฤติ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายถูกศาลตัดสินประหารชีวิตซึ่งปัจจุบันยังจำคุกอยู่ในเรือนจำบางขวาง โดยได้ค่าจ้างส่ง 1 มัด 2,000 เม็ด ต่อค่าส่ง 10,000 บาท ซึ่งในครั้งนี้เค้าส่งถึง 50,000 บาท
พ.ต.อ.วีระชัย วิชัยธนพัฒน์ ระบุว่า หลังจากสืบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลการจับกุมโดยวางแผนให้ นายเดียร์ นำยาบ้า 4,000 เม็ด ไปส่งให้นายปลา โดนนัดหมายกันที่ปั๊มน้ำมันบริเวณ 3 แยกสวนผัก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช โดย นายปลา ได้เดินทางมากับ นายภูมิพันธ์ โดยขับขี่รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีเขียวตอนเดียว หมายเลขทะเบียน บว 3541 สงขลา มารับของ หลังจากรับยาบ้าจาก นายเดียร์ เจ้าหน้าตำรวจที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที ตรวจค้นภายในตัวพบอาวุธปืนขนาด จุด 38 พร้อมพระกระสุนปืนในลูกโม่ 3 นัด เงินสด 9,500 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
หลังจากขยายผล นายภูมิพันธ์ ได้รับสารภาพว่า ได้สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด จากนายวัชระ หรือ ยาว จากเรือนจำบางขวางจริง โดยจะสั่งซื้อผ่านทางโทรศัพท์ ในราคามัดละ 330,000 บาท ครั้งแรกแรกเมือประมาณเดือนธันวาคม 2551 จำนวน 1 มัด 2,000 เม็ด โดยโอนเงินสดเข้าบัญชี นางชนิดา ชินวงศ์ ธนาคารกรุงเทพสาขามหาชัย ซึ่งในการโอนเงินทุกครั้ง นายวัชระ หรือยาว จะโทรศัพท์ออกมาจากเรือนจำบางขวาง สั่งการเองทุกครั้งที่โอนเงิน
หลังจากสืบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อแก่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหากับ นายพยุงศักด์ หรือปลา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุผลอันควรและไม่ได้รับอนุญาต โดย นายเดียร์ และนายปลา ให้การรับสารภาพ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือให้การให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนเครือข่ายที่เหลือจะประสานไปยังหน่วยเหนือให้ดำเนินการสืบสวนในการจับกุมต่อไป
วันนี้ (7 ม.ค.) พ.ต.อ.วีระชัย วิชัยธนพัฒน์ ผู้กำกับการกลุ่มงานป้องกันและปราบปรามฯ รักษาการผู้กำกับการตำรวจทางหลวง 7 บังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมด้วย พ.ต.ต. บรรพต เดชมา สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 7 บังคับการตำรวจทางหลวง ได้นำตัว นายไชยฤกษ์ หรือ เดียร์ คงศักดิ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 4 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช, นายเอกชัย ราชคงแก้ว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 5 ต.ไสหร้า อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
นางดารา ราชคงแก้ว อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 309 หมู่ที่ 9 ต.ไสหร้า อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช, นายพยุงศักดิ์ หรือ ปลา ยอดไกร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 ซอย 2 ถ.ท่าพรุวิทยา ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา, นายภูมิพันธุ์ เสริมสกุลชาติ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ที่ 8 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง
พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้ารวม 10,000 เม็ด รถยนต์เก๋งโตต้าวีออสสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน, รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีเขียวตอนเดียว หมายเลขทะเบียน บว 3541 สงขลา 1 คัน เงินสด จำนวน 9,500 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม โดยมีเงินสดในธนาคารคงเหลือ 121,014 บาท อาวุธปืนขนาด .38 ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 3 นัด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อม สร้อยคอทองคำพระเลี่ยมทอง 2 เส้น
พ.ต.อ.วีระชัย วิชัยธนพัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจทางหลวงได้ตรวจพื้นที่ บนถนนหลวงหมายเลข 4016 ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พบ นายไชยฤกษ์ หรือ เดียร์ คงศักดิ์ ขับรถเก๋งโตต้าวีออสสีดำไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน โดยมี นายเอกชัย ราชคงแก้ว นั่งคู่มาด้านข้างคนขับ และนางดารา ราชคงแก้ว นั่งอยู่เบาะหลัง
รถคันดังกล่าวมีพฤติกรรมน่าสงสัย จึงเรียกตรวจค้น พบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลตั้งอยู่เบาะหลังตรวจค้นภายใน พบยาบ้าจำนวนมากบรรจุอยู่ในถุงสีฟ้า ดั่งกล่าวซุกซ้อนอยู่ในกระเป๋าเจ้าหน้าที่จึงรวบตัวบุคคลทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง นำตัวไปทำการสืบสวน พบของกลางเพิ่มเติม คือ สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม โดยเป็นของ นายเดียร์ มีเงินคงเหลือในบัญชี 121,014 บาท และสมุดบัญชี ของ นางดารา มีเงินเหลือในบัญชี 92,824 บาท ใบบันทึกรายการ เบิกถอนเงิน 2 ใบ โทรศัพท์มือ 2 เครื่อง
เบื้องต้น นายเดียร์ ยอมรับว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยร่วมกับ นายเอกชัย และ นางดารา ไปรับมาจากหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20 ปี โดยนำมาส่งที่หน้าห้างโรบินสัน ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อจะนำส่งให้ นายปลา ไม่ทราบนามสุกล จำนวน 4,000 เม็ด โดยจะมีการนัดหมายกันทางโทรศัพท์ ส่วนยาบ้าที่เหลืออีก 6,000 เม็ด ที่เหลือจะนำไปส่งลูกค้าที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี วิธีการส่งจะเหมือนกับรายของนายปลา
นายเดียร์ ยังยอมรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้ค่าจ้างจากการส่งยาบ้าในแต่ละครั้งจาก นายวัชระ หรือ ยาว ประพฤติ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายถูกศาลตัดสินประหารชีวิตซึ่งปัจจุบันยังจำคุกอยู่ในเรือนจำบางขวาง โดยได้ค่าจ้างส่ง 1 มัด 2,000 เม็ด ต่อค่าส่ง 10,000 บาท ซึ่งในครั้งนี้เค้าส่งถึง 50,000 บาท
พ.ต.อ.วีระชัย วิชัยธนพัฒน์ ระบุว่า หลังจากสืบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลการจับกุมโดยวางแผนให้ นายเดียร์ นำยาบ้า 4,000 เม็ด ไปส่งให้นายปลา โดนนัดหมายกันที่ปั๊มน้ำมันบริเวณ 3 แยกสวนผัก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช โดย นายปลา ได้เดินทางมากับ นายภูมิพันธ์ โดยขับขี่รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีเขียวตอนเดียว หมายเลขทะเบียน บว 3541 สงขลา มารับของ หลังจากรับยาบ้าจาก นายเดียร์ เจ้าหน้าตำรวจที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที ตรวจค้นภายในตัวพบอาวุธปืนขนาด จุด 38 พร้อมพระกระสุนปืนในลูกโม่ 3 นัด เงินสด 9,500 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
หลังจากขยายผล นายภูมิพันธ์ ได้รับสารภาพว่า ได้สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด จากนายวัชระ หรือ ยาว จากเรือนจำบางขวางจริง โดยจะสั่งซื้อผ่านทางโทรศัพท์ ในราคามัดละ 330,000 บาท ครั้งแรกแรกเมือประมาณเดือนธันวาคม 2551 จำนวน 1 มัด 2,000 เม็ด โดยโอนเงินสดเข้าบัญชี นางชนิดา ชินวงศ์ ธนาคารกรุงเทพสาขามหาชัย ซึ่งในการโอนเงินทุกครั้ง นายวัชระ หรือยาว จะโทรศัพท์ออกมาจากเรือนจำบางขวาง สั่งการเองทุกครั้งที่โอนเงิน
หลังจากสืบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อแก่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหากับ นายพยุงศักด์ หรือปลา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุผลอันควรและไม่ได้รับอนุญาต โดย นายเดียร์ และนายปลา ให้การรับสารภาพ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือให้การให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนเครือข่ายที่เหลือจะประสานไปยังหน่วยเหนือให้ดำเนินการสืบสวนในการจับกุมต่อไป