ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตสั่งตรวจสอบเข้มสถานบันเทิงทุกแห่ง รวมทั้งโรงแรม ป้องกันเหตุเพลิงไหม้ เผยตรวจสถานบันเทิงหลายแห่งพบดำเนินการไม่ถูกต้อง
นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการคุมเข้มสถานบริการและสถานบันเทิงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ หลังเกิดเหตุกับ “ซานติก้าผับ” และ “เสือป่าพลาซ่า” ที่กรุงเทพมหานครว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็คที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบความปลอดภัยในสถานบันเทิงมาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม และจากการที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวจึงต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วผลกระทบไม่ได้มีเฉพาะสถานประกอบการเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัด และการท่องเที่ยวในภาพรวมด้วย
“หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร ผมก็ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบสถานบริการและสถานบันเทิงต่างๆ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะทางหนีไฟ ทางออกฉุกเฉิน อุปกรณ์ในการดับเพลิง และมาตรการด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งให้มีการตรวจสอบทั้งในช่วงที่เปิดให้บริการในช่วงกลางคืนและช่วงกลางวัน เพื่อจะได้เปรียบเทียบว่าเป็นอย่างไรและจะได้หาทางแก้ไขได้ถูกต้อง”
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า ในการเข้าไปตรวจสอบหากพบว่ามีปัญหาในจุดใดก็ให้แจ้งกับเจ้าของสถานประกอบการทำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้มาใช้บริการ หากยังมีการฝ่าฝืนก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งไม่เฉพาะสถานบันเทิงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสถานบริการอื่นๆ ที่มีผู้เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่น โรงแรมที่พัก รีสอร์ต โรงงาน เป็นต้น
นายปรีชา กล่าวอีกว่า จากการที่ได้มีการสั่งการให้นายอำเภอเมืองภูเก็ตกับนายอำเภอกะทู้ไปตรวจสอบสถานบันเทิงและสถานบริการในพื้นที่ขณะนี้มีการรายงานทางวาจามาแล้วในเบื้องต้นพบว่ามีข้อบกพร่องที่จะแก้ไขในหลายจุด เช่น ทางออกแคบ อุปกรณ์ดับเพลิง เป็นต้น ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จหลังปีใหม่ แต่หากไม่มีการดำเนินการก็จะว่ากันไปตามกฎหมายต่อไป
นายปรีชา ยังกล่าวถึงสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลาและไม่มีใบอนุญาตด้วยว่า คงต้องว่ากันไปตามกติกา ซึ่งเจ้าของสถานประกอบการย่อมที่จะรู้ดี หากสถานประกอบการใดที่ทำไม่ถูกต้องก็จะต้องไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมามักพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเปิดดำเนินการไปก่อนที่จะมีการขออนุญาต เมื่อถูกตรวจสอบมักจะอ้างว่าลงทุนไปแล้ว ฉะนั้นหากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาก็จะต้องขออนุญาตให้ถูกต้องแล้วจึงเปิดให้บริการ
นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการคุมเข้มสถานบริการและสถานบันเทิงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ หลังเกิดเหตุกับ “ซานติก้าผับ” และ “เสือป่าพลาซ่า” ที่กรุงเทพมหานครว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็คที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบความปลอดภัยในสถานบันเทิงมาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม และจากการที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวจึงต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วผลกระทบไม่ได้มีเฉพาะสถานประกอบการเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัด และการท่องเที่ยวในภาพรวมด้วย
“หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร ผมก็ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบสถานบริการและสถานบันเทิงต่างๆ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะทางหนีไฟ ทางออกฉุกเฉิน อุปกรณ์ในการดับเพลิง และมาตรการด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งให้มีการตรวจสอบทั้งในช่วงที่เปิดให้บริการในช่วงกลางคืนและช่วงกลางวัน เพื่อจะได้เปรียบเทียบว่าเป็นอย่างไรและจะได้หาทางแก้ไขได้ถูกต้อง”
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า ในการเข้าไปตรวจสอบหากพบว่ามีปัญหาในจุดใดก็ให้แจ้งกับเจ้าของสถานประกอบการทำการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้มาใช้บริการ หากยังมีการฝ่าฝืนก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งไม่เฉพาะสถานบันเทิงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสถานบริการอื่นๆ ที่มีผู้เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก เช่น โรงแรมที่พัก รีสอร์ต โรงงาน เป็นต้น
นายปรีชา กล่าวอีกว่า จากการที่ได้มีการสั่งการให้นายอำเภอเมืองภูเก็ตกับนายอำเภอกะทู้ไปตรวจสอบสถานบันเทิงและสถานบริการในพื้นที่ขณะนี้มีการรายงานทางวาจามาแล้วในเบื้องต้นพบว่ามีข้อบกพร่องที่จะแก้ไขในหลายจุด เช่น ทางออกแคบ อุปกรณ์ดับเพลิง เป็นต้น ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จหลังปีใหม่ แต่หากไม่มีการดำเนินการก็จะว่ากันไปตามกฎหมายต่อไป
นายปรีชา ยังกล่าวถึงสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลาและไม่มีใบอนุญาตด้วยว่า คงต้องว่ากันไปตามกติกา ซึ่งเจ้าของสถานประกอบการย่อมที่จะรู้ดี หากสถานประกอบการใดที่ทำไม่ถูกต้องก็จะต้องไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมามักพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเปิดดำเนินการไปก่อนที่จะมีการขออนุญาต เมื่อถูกตรวจสอบมักจะอ้างว่าลงทุนไปแล้ว ฉะนั้นหากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาก็จะต้องขออนุญาตให้ถูกต้องแล้วจึงเปิดให้บริการ
