กรมคุ้มครองสิทธิฯ เล็งฟ้องเจ้าของซานติก้าเรียกคืนค่าเสียหาย

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ประชุมร่วมกับนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อหาทางเยียวยาเหยื่อจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ กล่าวหลังการประชุมว่า ความช่วยเหลือจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะสามารถจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้เสียหายในคดีอาญาได้ทันที หากตำรวจตั้งข้อหาว่าเป็นการกระทำความผิดทางอาญา หรือกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บ โดยขอให้ญาติผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว นำหลักฐานมายื่นคำร้องที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้ ส่วนเม็ดเงินที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ จ่ายค่าเสียหายให้กับเหยื่อซานติก้านั้น จะฟ้องร้องเรียกคืนจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงซานติก้าผับด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น เห็นว่ามีข้อมูลที่สามารถขยายผลในการตรวจสอบการเปิดสถานบันเทิงของซานติก้าผับ ซึ่งมีการขออนุญาตและเปลี่ยนแปลงยกเลิกจนกระทั่งมีคดีฟ้องศาลและอัยการมีการสั่งไม่ฟ้องถึง 43 คดี ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจะตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย ดีเอสไอ ป.ป.ท.และกรมคุ้มครองสิทธิฯ เข้าไปตรวจสอบคู่ขนานกับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีเจ้าหน้าที่ หรือความไม่ถูกต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปิดสถานบันเทิงแห่งนี้อย่างไร โดยให้รายงานผลกลับภายใน 1 สัปดาห์
นอกจากนี้ จะเร่งพิจารณาว่า พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร มีส่วนใดที่ล้าสมัย ต้องปรับปรุง เช่น รายละเอียดในการอนุญาตการก่อสร้างอาคาร สำหรับสถานบันเทิง โรงมหรสพ หรืออื่น ๆ ในแต่ละประเภท จะต้องมีการระบุถึงมาตรการในการป้องกันเหตุไว้อย่างไร จะต้องมีการเสนอให้มีการแก้กฎหมายต่อไป
ส่วนกรณีของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่า นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า จะต้องตรวจสอบก่อน ขณะนี้ยังไม่แน่ชัด ว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญาหรือไม่ หากเป็นความประมาทต้องตรวจสอบว่าประมาทเข้าข่ายความผิดที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะต้องค่าชดเชยค่าเสียหายหรือไม่