นราธิวาส - ผช.ผบ.ตร.ประชุมลับ แกะรอยความคืบหน้าคดีคาร์บอมบ์ ที่ อ.ระแงะ คาดว่า อีก 2-3 วัน สามารถที่จะรวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส ออกหมายจับกลุ่มคนร้ายได้
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สฤษฏชัย อเนกเวียง ผบก.วท.4 และคณะ ได้เรียก พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย ผกก.สภ.ระแงะ และพนักงานสอบสวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 20 นาย ประชุมลับ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ที่บริเวณ 3 แยกเปาโล ถนนเทศบาล 8 เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ รวม 7 ราย
ซึ่งในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าสังเกตการณ์ เกรงความลับจะรั่วไหลจนกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุจะหวั่นไหวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยในที่ประชุมได้มีการนำเทปบันทึกภาพโทรทัศน์วงจรปิด จำนวน 6 ม้วน ที่ติดไว้ตามเสาไฟฟ้าจุดเกิดเหตุมาตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย ที่ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมที่บรรทุกระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม หนัก 40 กก.มาจอด รวมทั้งความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่มีจำนวนเกือบ 10 คน ที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคนร้ายที่จุดชนวนระเบิด ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พอทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้ายแล้วบางส่วน จากการให้ปากคำของพยานบุคคลในละแวกจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยตามหมายจับ พ.ร.ก.ก่อคดีความมั่นคงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอระแงะและอำเภอใกล้เคียง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบซากรถยนต์เก๋งคาร์บอมบ์ที่จอดไว้ที่ สภ.ระแงะ เพื่อเป็นการหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากพบว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมีการลบหมายเลขแซสซี แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวใครเป็นคนเจ้าของคนสุดท้าย เพื่อที่จะได้เชิญตัวมาให้ปากคำเพื่อขยายผลไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ และคาดว่า ในอีก 2-3 วัน เจ้าหน้าที่สามารถที่จะรวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส เพื่อออกหมายจับกลุ่มคนร้ายในเบื้องต้นบางส่วนก่อน และรอผลการตรวจสอบซิมโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายจุดชนวนระเบิดว่าเป็นของผู้ใด และมีการโทร.ติดต่อกันกับใครบ้าง จึงจะรวบรวมหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สฤษฏชัย อเนกเวียง ผบก.วท.4 และคณะ ได้เรียก พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย ผกก.สภ.ระแงะ และพนักงานสอบสวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 20 นาย ประชุมลับ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ที่บริเวณ 3 แยกเปาโล ถนนเทศบาล 8 เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ รวม 7 ราย
ซึ่งในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าสังเกตการณ์ เกรงความลับจะรั่วไหลจนกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุจะหวั่นไหวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยในที่ประชุมได้มีการนำเทปบันทึกภาพโทรทัศน์วงจรปิด จำนวน 6 ม้วน ที่ติดไว้ตามเสาไฟฟ้าจุดเกิดเหตุมาตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย ที่ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมที่บรรทุกระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม หนัก 40 กก.มาจอด รวมทั้งความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่มีจำนวนเกือบ 10 คน ที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคนร้ายที่จุดชนวนระเบิด ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พอทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้ายแล้วบางส่วน จากการให้ปากคำของพยานบุคคลในละแวกจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยตามหมายจับ พ.ร.ก.ก่อคดีความมั่นคงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอระแงะและอำเภอใกล้เคียง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบซากรถยนต์เก๋งคาร์บอมบ์ที่จอดไว้ที่ สภ.ระแงะ เพื่อเป็นการหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากพบว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมีการลบหมายเลขแซสซี แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวใครเป็นคนเจ้าของคนสุดท้าย เพื่อที่จะได้เชิญตัวมาให้ปากคำเพื่อขยายผลไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ และคาดว่า ในอีก 2-3 วัน เจ้าหน้าที่สามารถที่จะรวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส เพื่อออกหมายจับกลุ่มคนร้ายในเบื้องต้นบางส่วนก่อน และรอผลการตรวจสอบซิมโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายจุดชนวนระเบิดว่าเป็นของผู้ใด และมีการโทร.ติดต่อกันกับใครบ้าง จึงจะรวบรวมหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป
