ผบ.ตร.สั่งสแกนพื้นที่กวาดล้างมือปืนอาละวาดช่วงเลือกตั้ง ยอมรับเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจนราธิวาส เป็นความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่ เตรียมขันน็อตตำรวจในพื้นที่มากขึ้น
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมีคำสั่งให้ตำรวจทุกหน่วยจับตาคู่แข่งการเลือกตั้งขัดแย้งทางการเมือง ว่า ศูนย์บริหารเหตุการณ์ร้ายแรง ตร. (ศบร.ตร.) มีความเห็นว่าเป็นช่วงเลือกตั้งและมีแนวโน้มใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธสงคราม จึงสั่งการให้ทุกหน่วยรวบรวมข้อมูล ทั้งข้อมูลปืน แผนประทุษกรรม เป็นฐานข้อมูลเก็บไว้ ตลอดจนแนวคิดการหาฐานข้อมูลคู่ขัดแย้ง เพื่อเป็นแนวทางสืบสวนป้องกันเหตุ ให้ตำรวจเข้าไปสแกนพื้นที่ก่อน โดยทุกวันนี้เรามีฐานข้อมูลมือปืน กลุ่มอิทธิพลอยู่แล้ว ก็สั่งการให้ไปดำเนินการจับกุมตามหมายจับก่อน
เมื่อถามว่าตำรวจพบข่าวที่กลุ่มนักการเมืองระดับชาติมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ความรุนแรงมีหลายรูปแบบ การแข่งขันรุนแรงมีแน่ แต่รุนแรงด้วยการใช้อาวุธทำร้ายกันนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องสืบสวน แต่ระดับนี้ถึงขั้นฆ่ากัน ทำร้ายคงไม่มี
พล.ต.อ.วิเชียรยังกล่าวถึงเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ว่าเรื่องนี้เป็นความหย่อนยานประมาท ของฝ่ายเรา ซึ่งจากการพูดคุยกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. ที่ลงไปในพื้นที่แล้ว โดย พล.ต.อ.อดุลย์แจ้งว่าจากนี้ต้องขันน็อตตำรวจในพื้นที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเหตุที่เกิดไม่ใช่ เพราะอำนาจรัฐอ่อนแอ โดยต่อไปต้องหามาตรการให้ตำรวจเข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำงานของตำรวจนั้น พัฒนามาถูกทางแล้ว โดยดีขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งการดูแลที่ตั้งโรงพักก็ดีขึ้นจากเมื่อก่อนมาก แต่จุดเกิดเหตุแฟลตพักห่างจากสภ.ศรีสาคร จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษและยอมรับเป็นจุดอ่อน ซึ่งการดูแลตำรวจและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบนั้น พล.ต.อ.อดุลย์ได้เข้าไปดำเนินการแล้ว
