ชุมพร - จังหวัดชุมพร รับงบ 396 ล้าน เร่งเปิดจุดแทรกแซงราคาปาล์มน้ำมัน ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ
นายวรากร ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานประชุมเร่งรัดการทำสัญญา / การเปิดจุดแทรกแซงตลาดปาล์มน้ำมันปี 2551/52 ซึ่งคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเป็นอย่างมาก
การดำเนินโครงการดังกล่าว องค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้รับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรนำมาขายให้แก่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่เข้าร่วมโครงการ 7 โรง ในราคาประกันกิโลกรัมละ 3.50 บาท โดยมีระยะเวลาการรับซื้อตั้งแต่บัดนี้ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552
ขณะนี้จังหวัดชุมพรได้รับอนุมัติงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการดังกล่าว 396 ล้านบาท เพื่อรับซื้อปาล์มน้ำมัน 17,600 ตัน ซึ่ง อคส.ได้จัดสรรโควต้าให้โรงงานที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 7 โรง คือ บริษัทชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) 2,930 ตัน บริษัทวิจิตรภัณฑ์ปาล์มออย จำกัด 2,930 ตัน
บริษัท วิจิตรภัณฑ์สวนปาล์ม จำกัด 2,930 ตัน บริษัท ปาล์มน้ำมันธรรมชาติชุมพร 2,930 ตัน บริษัท สวีอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด 2,200 ตัน บริษัท ภูพาณิชย์ปาล์มน้ำมัน จำกัด 2,930 ตัน และสหกรณ์นิคมหลังสวน จำกัด 750 ตัน
ทั้งนี้ อคส.ได้มอบหมายให้ นายวสันต์ มัชฌิมวงศ์ เป็นผู้ประสานงานประจำจังหวัดชุมพร และมีการตั้งตัวแทนฝ่ายราชการ ตัวแทนเกษตรกร และผู้ช่วย อคส.ประจำจุด รวมทั้งตรวจสต๊อกก่อนเปิดจุดแทรกแซง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินงาน ว่า การประชุมครั้งนี้ทางจังหวัดได้เชิญตัวแทนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 7 โรง มาร่วมพิจารณาขั้นตอนการดำเนินงาน และเงื่อนไขสัญญาซื้อขายปาล์มน้ำมัน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดขัดในเรื่องเงื่อนไขบางอย่างในสัญญา ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องทบทวนและเร่งรัดการทำสัญญา และเปิดจุดแทรกแซงราคาปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มให้เร็วที่สุด
นายวรากร ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานประชุมเร่งรัดการทำสัญญา / การเปิดจุดแทรกแซงตลาดปาล์มน้ำมันปี 2551/52 ซึ่งคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเป็นอย่างมาก
การดำเนินโครงการดังกล่าว องค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้รับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรนำมาขายให้แก่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่เข้าร่วมโครงการ 7 โรง ในราคาประกันกิโลกรัมละ 3.50 บาท โดยมีระยะเวลาการรับซื้อตั้งแต่บัดนี้ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552
ขณะนี้จังหวัดชุมพรได้รับอนุมัติงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการดังกล่าว 396 ล้านบาท เพื่อรับซื้อปาล์มน้ำมัน 17,600 ตัน ซึ่ง อคส.ได้จัดสรรโควต้าให้โรงงานที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 7 โรง คือ บริษัทชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) 2,930 ตัน บริษัทวิจิตรภัณฑ์ปาล์มออย จำกัด 2,930 ตัน
บริษัท วิจิตรภัณฑ์สวนปาล์ม จำกัด 2,930 ตัน บริษัท ปาล์มน้ำมันธรรมชาติชุมพร 2,930 ตัน บริษัท สวีอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด 2,200 ตัน บริษัท ภูพาณิชย์ปาล์มน้ำมัน จำกัด 2,930 ตัน และสหกรณ์นิคมหลังสวน จำกัด 750 ตัน
ทั้งนี้ อคส.ได้มอบหมายให้ นายวสันต์ มัชฌิมวงศ์ เป็นผู้ประสานงานประจำจังหวัดชุมพร และมีการตั้งตัวแทนฝ่ายราชการ ตัวแทนเกษตรกร และผู้ช่วย อคส.ประจำจุด รวมทั้งตรวจสต๊อกก่อนเปิดจุดแทรกแซง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินงาน ว่า การประชุมครั้งนี้ทางจังหวัดได้เชิญตัวแทนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 7 โรง มาร่วมพิจารณาขั้นตอนการดำเนินงาน และเงื่อนไขสัญญาซื้อขายปาล์มน้ำมัน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดขัดในเรื่องเงื่อนไขบางอย่างในสัญญา ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องทบทวนและเร่งรัดการทำสัญญา และเปิดจุดแทรกแซงราคาปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มให้เร็วที่สุด