ระนอง - ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ระดมกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าตรวจค้นเรือนจำจังหวัดระนองเพื่อหายาเสพติดและอาวุธ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (24 ธ.ค.) นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำเนา ครุฑไชยัณห์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง และ นายโสภณ ยิ้มปรีชา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดระนองนำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 63 นาย เข้าตรวจค้นภายในเรือนจำจังหวัดระนอง เพื่อค้นหายาเสพติด อาวุธและสิ่งผิดกฎหมายชนิดต่างๆ ตามแผนปฏิบัติการ 90 วัน พ้นภัยยาเสพติดและป้องกันการสะสมอาวุธที่อาจจะนำมาใช้ในการก่อเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน
จากการตรวจค้นอย่างละเอียดทั้งที่ตัวผู้ต้องขังทั้งชายและหญิง 689 คน ที่เรือนนอน ตู้ล็อกเกอร์เก็บสิ่งของ ปรากฏว่า ไม่พบยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ แต่อย่างใด แต่พบก้นบุหรี่แบบมวนด้วยใบจาก ภายในเรือนนอนชาย ซึ่งตามระเบียบของเรือนจำห้ามสูบบุหรี่ภายในเรือนนอน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อื่นและอาจจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เรือนจำจะได้นำตัวผู้ต้องขังที่ฝ่าฝืนมาลงโทษตามระเบียบต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่าตนไม่กังวลเรื่องการระบาดของยาเสพติดและการก่อเหตุภายในเรือนจำเนื่องจากเรือนจำมีกฎระเบียบที่เข้มงวดอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดำเนินการตรวจค้นเพื่อป้องปรามและผู้ต้องขังเด็ดขาดมีโทษจำสูงสุดไม่เกิน 15 ปี คงไม่มีใครกล้ากระทำผิดกฎหมายซ้ำอีก
ส่วนความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังนั้นมีคุณภาพชีวิตในภาพรวม ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมีการส่งเสริมอาชีพให้ผู้ต้องขังมีรายได้เสริมโดยตนจะหางบประมาณมาสนับสนุนอุปกรณ์ชุดตัดผมชาย ส่วนผู้ต้องขังหญิงนั้นที่อยู่ค่อนข้างแออัดแต่ทราบว่าทางกรมราชทัณฑ์กำลังของบประมาณปี 2553 จำนวน 150 ล้านบาท เพื่อมาก่อสร้างเรือนนอนหญิง และขยายพื้นที่อีกจำนวน 14 ไร่ ซึ่งจะทำให้ความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังดียิ่งขึ้นต่อไป