ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “อดีตการ์ดอาสาพันธมิตรฯภูเก็ต” ชี้รัฐบาล “มาร์ค” เลือกตัวบุคคลมาดำรงตำแหน่งที่ความรู้ ความสามารถโดยเฉพาะ “กษิต” รมว.ต่างประเทศ เหตุไม่ใช่แกนนำพันธมิตรฯเป็นเพียงผู้ปราศรัย ชี้ชอบธรรมแน่นอน พร้อม อัด! “ณัฐวุฒิ” เป็นถึงแกนนำ นปช.ยังนั่งตำแหน่งโฆษกรัฐบาลของ “สมัคร-สมชาย” ได้ ชี้ตัวเน่าไม่เหม็น
นายกฤช เทพบำรุง อดีตทีมการ์ดอาสาภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือพรรคพลังประชาชนเดิม ออกมากล่าวโจมตีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คนปัจจุบันว่า เคยขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะอาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนานาประเทศทั่วโลก เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดสนามบิน สร้างภาพลบต่อประเทศไทย ว่า
การที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่งตั้งให้อดีตท่านทูตกษิต ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลชุดนี้นั้น ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะอดีตท่านทูตกษิต เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านการต่างประเทศ นานาประเทศก็รู้จักเป็นอย่างดี การคัดเลือกตัวบุคคลที่จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใด ๆ นั้น
เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี พิจารณาจากความสามารถและความเหมาะสมของบุคคลนั้น ๆ ว่า จะสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ตนเชื่อว่า ไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน และที่สำคัญที่ฝ่ายแกนนำ นปช.3 เกลอหัวขวด ออกมากล่าวโจมตีอย่างต่อเนื่องว่า นายกษิต เคยขึ้นเวทีของพันธมิตรฯ นั้น
ชี้ “กษิต” นั่ง รมว.ต่างประเทศได้เหตุไม่ใช่แกนนำพันธมิตรฯ
ตนเห็นว่า ไม่ใช่ประเด็นที่จะนำมาชี้ชัดว่า รัฐบาลชุดนี้ขาดความชอบธรรม เพราะนายกษิต เป็นเพียงผู้ปราศรัยคนหนึ่งบนเวทีพันธมิตรฯ เท่านั้น ไม่ใช่แกนนำพันธมิตรแต่อย่างใด แต่ในทางกลับกัน ยุครัฐบาลนอมินีอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2 สมัย ภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
อัด “ณัฐวุฒิ” แกนนำ นปช.ยังนั่งโฆษกรัฐบาลหนักยิ่งกว่า
1 ใน 3 เกลอหัวขวด คือ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ซึ่งถือเป็นแกนนำ นปช.หรือกลุ่มเสื้อแดง กลับได้รับการแต่งตั้งให้เป็นถึงโฆษกรัฐบาลด้วยซ้ำไป และการทำงานของรัฐบาลทั้ง 2 ชุดที่ผ่านมา โดยเฉพาะตัวของ 3 เกลอหัวขวดเอง ประชาชนทั้งประเทศก็เห็นชัดเจนว่า รับใช้ใคร เปรียบได้กับตัวเองเน่า แต่กลับไม่เหม็น แต่ในส่วนของนายกษิต ไม่ใช่แกนนำ หรือมีตำแหน่งในในส่วนของพันธมิตรฯ ย่อมมีความโปร่งใส และชอบธรรมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลชุดนี้อย่างเต็มที่
เชื่อไม่ได้ตั้งมาเพื่อตามเช็คบิล “ทักษิณ” และ “ทวงคืนเขาพระวิหาร”
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันว่า นายกษิต ถูกแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างประเทศ นำตัวอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น เช่นเดียวกับกรณีข้อพิพาท เรื่องพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหาร กับประเทศกัมพูชา
เชื่อว่า ไม่จริงแต่อย่างใด อย่างที่บอกนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่ง เพราะพิจารณาความสามารถในการบริหารงาน เชื่อว่า สาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่นายอภิสิทธิ์ เลือกนายกษิต คือ เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตของประเทศไทย ประจำอยู่ที่หลายประเทศ ย่อมมีความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศอยู่แล้ว การมาดำรงตำแหน่ง รมต.ต่างประเทศ ย่อมสามารถทำงานได้ดีกว่าผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการทูตอย่างแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเฝ้าจับตาการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิด หากพบว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารงานประเทศไปในทางที่ส่อทุจริต โกงกินประเทศชาติบ้านเมือง หรือเข้ามาเพื่อช่วยเหลือบุคคลของอดีตรัฐบาลที่ผ่านมาให้พ้นผิด เชื่อว่า พันธมิตรฯ จะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด