ตรัง - ชาวสวนตรังเดือดร้อนหนัก หลังราคาผลผลิตตกต่ำจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลก แห่นำทรัพย์สินมีค่าเข้าโรงจำนำของเทศบาลนครตรังจำนวนมาก เงินสำรองจ่ายหมดไปแล้ว 45 ล้านบาท จากที่เตรียมไว้ 60 ล้านบาท
นายอุดมศิลป์ สิวายะวิโรจน์ ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลนครตรัง เปิดเผยถึงช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำในขณะนี้จนส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วโลก รวมทั้งประชาชนในประเทศไทย โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำว่า ในส่วนของประชาชนชาวจังหวัดตรัง โดยเฉพาะชาวสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน ก็กำลังประสบปัญหาราคาลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคายางพาราอยู่ที่กิโลกรัมละ 30-35 บาท และราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่กิโลกรัมละ 2-3 บาท ทำให้ชาวบ้านที่กำลังประสบปัญหาการใช้จ่ายฝืดเคือง และสภาวะทางการเงินไม่มีความคล่องตัว จึงหันมานำสิ่งของมีค่า โดยเฉพาะสร้อยคอทองคำ มาจำนำกับสถานธนานุบาล เทศบาลนครตรังกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนสุดท้ายของปี 2551 สถานธนานุบาล เทศบาลนครตรัง มียอดประชาชนเข้ามาใช้บริการจำนำแล้วกว่า 45 ล้านบาท จากงบประมาณจัดสรรไว้ทั้งหมด 60 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงปลายปี 2551 ถึงช่วงต้นปี 2552 นี้จะมีประชาชนชาวจังหวัดตรังมาขอใช้บริการกับสถานธนานุบาล เทศบาลนครตรังเพิ่มมากขึ้น และในส่วนของยอดการเข้ามาไถ่ถอนนั้น น่าจะมีจำนวนน้อย หรืออาจจะไม่มีเลย
เนื่องจากมีประชาชนที่นำสิ่งของบางอย่างมาจำนำ เช่น โทรศัพท์มือถือ รุ่นเก่าๆ หรือสภาพเก่าๆ ยอมที่จะรับเงินค่าจำนำเพียง 100 บาท เนื่องจากประสบปัญหาไม่มีเงินสำรองในการใช้จ่ายช่วงนี้ ถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก