ชุม - ชาวชุมพรแห่ใช้บริการโรงรับจำนำจนเงินหมด ต้องเร่งหาแหล่งเงินทุนมาเสริมสภาพคล่องกว่า 10 ล้านบาท
วิกฤตเศรษฐกิจขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้เข้าสู่เทศกาลปีใหม่ 2552 ได้มีประชาชนในพื้นที่ จ.ชุมพร นำทรัพย์สินของมีค่ามาจำนำที่สถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ เทศบาลเมืองชุมพร กันอย่างต่อเนื่อง จนเงินสำรองหมดต้องเร่งหาแหล่งทุนมาเสริมสภาพคล่องอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ พบลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน กลุ่มคนรับจ้าง และประชาชนทั่วไป โดยทรัพย์สินที่นำมาจำนำส่วนมากเป็นทองรูปพพรรณ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังพบว่า มีประชาชนเริ่มมีความกังวนเป็นห่วงเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน จึงได้นำไปฝากไว้กับสถานธนานุบาลเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าจากปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ ทำให้มีการปล้นจี้ และมีแก๊งออกโจรกรรมทรัพย์สิน ตามอาคารสถานที่อยู่อาศัยมากขึ้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยเกี่ยวกับทรัพย์สินของมีค่า จึงต้องนำมาฝากไว้ที่โรงรับจำนำของรัฐ เพราะอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าโรงรับจำนำของเอกชน
ด้าน นายสนั่น อุตมาตย์ ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองชุมพร กล่าวว่า ในช่วงก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ 2552 นี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนเข้ามาใช้บริการสถานธนานุบาล เป็นจำนวนมาก คิดเป็นเงินเฉลี่ยวันละกว่า 1 ล้านบาท ทำให้เงินทุนหมุนเวียนของโรงรับจำนำหมดไป จึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการหาเงินทุนมาเสริมสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 10 ล้านบาท
โดยทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำนั้นมีหลากหลาย ทั้งทองคำรูปพรรณ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือประกอบอาชีพต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 95 พบว่าประชาชนจะมาไถ่ถอนทรัพย์สินที่จำนำไว้กลับคืนไปเกือบทั้งหมด เพราะประชาชนส่วนใหญ่นั้นต้องการนำเงินไปเสริมสภาพคล่องของตนเองในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองอย่างที่เป็นอยู่เท่านั้น
วิกฤตเศรษฐกิจขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้เข้าสู่เทศกาลปีใหม่ 2552 ได้มีประชาชนในพื้นที่ จ.ชุมพร นำทรัพย์สินของมีค่ามาจำนำที่สถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ เทศบาลเมืองชุมพร กันอย่างต่อเนื่อง จนเงินสำรองหมดต้องเร่งหาแหล่งทุนมาเสริมสภาพคล่องอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ พบลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน กลุ่มคนรับจ้าง และประชาชนทั่วไป โดยทรัพย์สินที่นำมาจำนำส่วนมากเป็นทองรูปพพรรณ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังพบว่า มีประชาชนเริ่มมีความกังวนเป็นห่วงเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน จึงได้นำไปฝากไว้กับสถานธนานุบาลเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าจากปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ ทำให้มีการปล้นจี้ และมีแก๊งออกโจรกรรมทรัพย์สิน ตามอาคารสถานที่อยู่อาศัยมากขึ้น ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยเกี่ยวกับทรัพย์สินของมีค่า จึงต้องนำมาฝากไว้ที่โรงรับจำนำของรัฐ เพราะอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าโรงรับจำนำของเอกชน
ด้าน นายสนั่น อุตมาตย์ ผู้จัดการสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองชุมพร กล่าวว่า ในช่วงก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ 2552 นี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนเข้ามาใช้บริการสถานธนานุบาล เป็นจำนวนมาก คิดเป็นเงินเฉลี่ยวันละกว่า 1 ล้านบาท ทำให้เงินทุนหมุนเวียนของโรงรับจำนำหมดไป จึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการหาเงินทุนมาเสริมสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 10 ล้านบาท
โดยทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำนั้นมีหลากหลาย ทั้งทองคำรูปพรรณ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือประกอบอาชีพต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 95 พบว่าประชาชนจะมาไถ่ถอนทรัพย์สินที่จำนำไว้กลับคืนไปเกือบทั้งหมด เพราะประชาชนส่วนใหญ่นั้นต้องการนำเงินไปเสริมสภาพคล่องของตนเองในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองอย่างที่เป็นอยู่เท่านั้น