คณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมสตูลติดตามดูความคืบหน้าก่อสร้างอาดังรีสอร์ท

สตูล - คณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล ติดตามดูคืบหน้าก่อสร้างอาดัง รีสอร์ท จำกัด ไม่พบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ติดประกาศให้บริษัท อาดัง รีสอร์ท จำกัด ทำการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างบนเกาะอาดังภายในวันที่ 10 ม.ค.52

วันนี้ (18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล พร้อมคณะ 30 คน ลงพื้นที่เกาะอาดัง ดูความคืบหน้าการก่อสร้างรีสอร์ทในส่วนของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากกรณีปัญหาข้อพิพาทของการก่อสร้าง อาดังรีสอร์ท เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับเข้าสู่ที่ประชุมสภา อบจ.ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ เพื่อหารือถึงปัญหากันต่อไป

ด้าน นายจำรูญ ดีเสาวภาคย์ ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม อบจ.สตูล กล่าวว่า จากการเข้าไปดูพื้นที่การก่อสร้างรีสอร์ท บนเกาะอาดัง ในส่วนของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมนั้น แนวปะการังดูแล้วไม่มีผลกระทบ ส่วนของแนวป่าก็อยู่ในช่วงอาคารหลังเก่าที่ก่อสร้างอยู่ก่อนแล้ว สำหรับผลกระทบจากการบริหารจัดการนั้นขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่อุทยาน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว

ถ้ามีการควบคุมดูแลดี ผลกระทบในเรื่องของน้ำเสีย เรื่องของขยะคงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนของนักท่องเที่ยวนั้นต้องรู้ เข้าใจถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งไม่กระทบมากนักในเชิงการท่องเที่ยว

สำหรับการก่อสร้าง อาดังรีสอร์ท บนเกาะอาดังนั้น ขณะนี้แล้วเสร็จกว่า 95 เปอร์เซ็นต์แล้ว คงเหลือเพียงเก็บสีเท่านั้น และอีก 1 สัปดาห์ คาดเสร็จสมบูรณ์พร้อมส่งมอบอาคาร

ด้าน นายณัฐพล รัตนพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้ติดประกาศให้บริษัท อาดัง รีสอร์ท จำกัด ทำการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างบนเกาะอาดังภายในวันที่ 10 ม.ค.2552 นี้แล้ว หลังก่อนหน้านี้ ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนให้ยุติการก่อสร้าง หลังบริษัท อาดัง รีสอร์ท จำกัด ได้ก่อสร้างอาคารที่พักในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาบนพื้นที่ 4 ไร่ 2 งาน ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการเองสามารถยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้ได้

โดยการดำเนินการทั้งหมดหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา บอกว่า เป็นการดำเนินการไปตามหน้าที่ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกิดจากความจงใจของนโยบายของรัฐที่จะให้พื้นที่เขตอุทยานเหล่านี้มาทำประโยชน์โดยไม่ได้ดูกฎหมายควบคู่ของอุทยาน พร้อมกันนี้ ยังเห็นว่า ด้วยขั้นตอนการประมูลที่ไม่โปร่งใส มีผู้ใหญ่ระดับนักการเมืองหนุนหลังยิ่งทำให้มองข้ามปัญหาที่จะเกิดขึ้นไปได้