xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มใหญ่หื่นกามข่มขืนเด็ก ม.1 โดนขู่ไม่กล้าปริปากจนคลอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุดอนาจ นักเรียน ม.1 ถูกหนุ่มใหญ่หื่นกามล่อลวงไปข่มขืน ขู่สารพัดฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว และเผาบ้าน หากปริปากบอกใคร เด็กต้องทนทุกข์ยอมเก็บความลับจนคลอด ผู้ปกครองโร่แจ้ง ตร.จับ โดน 3 ข้อหาหนัก ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี พรากผู้เยาว์ และกระทำอนาจาร สารภาพสิ้นเด็กยินยอม ด้านโรงเรียนพร้อมให้การช่วยเหลือทุกหนทาง

วันที่ 13 ธันวาคม นายหมาด ทับโทน ชาว ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 เวลา 10.00 น. ตนพร้อมด้วยนางฟาตีมะ ภรรยา ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.จิระพล ถิรินทรพงศ์ ร้อยเวร สอบสวน สภ.ย่อย ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ หลังทราบว่าบุตรสาวคนเดียวของตน คือ ด.ญ.บี(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ต.หนองทะเล อ.เมือง ถูกเพื่อนบ้าน ทราบชื่อต่อมา คือ นายนคร อินทร์บุตร อายุ 43 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.พัทลุง มาได้ภรรยาอยู่ที่ จ.กระบี่ อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 1 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราจนบุตรสาวของตนตั้งท้อง และได้คลอดลูกที่โรงพยาบาลกระบี่ทั้งชุดนักเรียน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา

นายหมาด เปิดเผยอีกว่า ตนทราบเรื่องภายหลังจากนางเนาวรัตน์ ปรีชา อาจารย์ที่ปรึกษาของ ลูกสาว ว่าลูกของตนได้คลอดลูกที่โรงพยาบาลกระบี่ ตอนแรกก็รู้สึกตกใจมาก จึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล และได้สอบถามบุตรสาวอยู่หลายครั้ง จนได้ความว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2551 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ ขณะที่ลูกสาว ได้ยืนรอเพื่อนอยู่ที่หน้าบ้าน ได้มีนายนคร ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กันชวนลูกสาวไปเที่ยว แต่ถูกปฏิเสธ จากนั้นนายนครก็นำน้ำส้มมาให้ลูกดื่ม หลังจาก ดื่มน้ำส้มแล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกที พบว่านอนในขนำร้าง หลังโรงเรียนนพรัตน์วิทยา บ้านช่องพลี ห่างจากบ้านประมาณ 800 เมตร อยู่ในสภาพเปลือยกาย และรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในช่องคลอด โดยมีนายนคร นั่งอยู่ข้างๆ

หลังจากรู้สึกตัว นายนครก็ได้ข่มขู่ว่า อย่านำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด ถ้าบอกก็จะฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว และจะเผาบ้านด้วย ด้วยความกลัวลูกสาวจึงได้ปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับตลอดมา มีเพียงนางเนาวรัตน์ ปรีชา อาจารย์ที่ปรึกษา เฝ้าสังเกตความผิดปกติของเด็กอยู่ประมาณ 2 เดือน เนื่องจาก เห็นลูกสาว มีรูปร่างอ้วนผิดปกติ แต่ก็ไม่กล้าแจ้งให้ผู้ปกครองเด็กทราบ เพราะไม่มั่นใจว่าผู้ปกครองจะเชื่อหรือไม่ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2551 ขณะที่ กำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน สังเกตเห็นลูกสาวมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จึงได้พา ไปตรวจที่โรงพยาบาลกระบี่ ผลจากการตรวจร่างกาย ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าตั้งครรภ์ใกล้คลอด แพทย์จึงให้พาเข้าห้องคลอด ประมาณ 30 นาที ก็คลอดลูกออกมาเป็นทารกเพศหญิง

นายหมาด กล่าวอีกว่า หลังทราบว่าลูกสาวคลอดลูก จึงได้สอบถามลูกว่าใครเป็นคนทำ ตอนแรกลูกสาวไม่ยอมปริปากบอก จนกระทั่งอาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาปลอบจึงยอมเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ได้ถูกนายนครซึ่งเพื่อนบ้านอยู่หลังติดกัน เป็นคนลงมือข่มขืน และข่มขู่ว่าถ้านำเรื่องบอกคนอื่นจะฆ่าทั้งครอบครัว จึงไม่กล้าบอกใคร

หลังทราบเรื่องราวทั้งหมดจึงได้ตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองกระบี่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ไปแจ้งที่ สภ.ย่อยอ่าวนาง ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายนครมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนสาเหตุที่ตนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกสาวนั้นเนื่องจากลูกสาวเป็นคนมีรูปร่างอ้วนอยู่แล้ว ประกอบกับตนและภรรยานั้นทำงานนอกบ้านไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านมากนัก โดยตนมีอาชีพตระเวนขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเงินผ่อน ส่วนภรรยานั้นเป็นแม่บ้านอยู่ที่บังกะโลในย่านอ่าวนาง กว่าจะกลับมาบ้านก็ใกล้ค่ำ

ด้าน พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รองผบก.ภว.จ.กระบี่ เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า หลังจากรับแจ้งในวันเดียวกันพนักงานสอบสวนก็ได้เชิญตัวนายนครฯ มาทำการสอบสวน ที่สภ.เมืองกระบี่ พร้อมรวบรวมพยานและหลักฐานเพื่อขอหมายศาลจับกุมตัวนายนครฯผู้ต้องหา เมื่อเช้าที่ผ่านมา(13 ธ.ค.51) โดยแจ้งข้อกล่าวหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี พรากผู้เยาว์ และกระทำอนาจาร ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า เด็กหญิงบีผู้เสียหายยินยอม เนื่องจากตนให้เงินเป็นค่าตอบแทน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย แล้ว

ด้านนายประนอม บุตรแขก ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เด็กเรียนอยู่ กล่าวว่า สำหรับเด็กหญิงบีนั้น ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก แต่เป็นเด็กที่มีนิสัยดี มีความขยันตั้งใจเรียน และเป็นนักกีฬาเปตอง เป็นตัวแทนของโรงเรียน เคยไปแข่งขันต่างจังหวัดและได้รับรางวัลมาแล้วหลายแห่ง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เรียกคณะครูในโรงเรียนมาประชุมเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจของเด็ก

เบื้องต้นจะช่วยเหลือในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ตลอดจนการเรียนของเด็ก ซึ่งคณะครูและภารโรงในโรงเรียนก็ได้ช่วยกันบริจาคเงิน และสิ่งของคนละเล็กคนละน้อย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น ในส่วนการเรียนนั้นจะต้องให้เด็กได้เรียนต่อจนจบชั้นม.1 ถ้าจะเรียนต่อก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากเด็กไม่สามารถไปเรียนตามปกติได้ จะให้งานไปทำ หรือให้ครูไปสอนที่บ้านแทน

“เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จึงขอฝากไปยังผู้ปกครองของเด็กทุกคน ว่า นอกจากครูในโรงเรียนจะต้องช่วยกันดูแลเอาใจใส่เด็กแล้ว เมื่อลูกกลับไปบ้านพ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรจะให้เวลากับเด็กให้ด้วย และเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเด็กหากพบเห็นความผิดปกติ ควรจะพูดคุยให้คำปรึกษาเด็ก หรือสอบถามข้อมูลจากครูที่ปรึกษาก็ได้ ซึ่งทางโรงเรียนจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเช่นที่ผ่านมา” ผอ.โรงเรียนหนองทะเลกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น