นราธิวาส – เจ้าหน้าที่แถลงข่าวความคืบหน้าคดีคนร้ายระเบิดที่ อ.สุคิริน มีผู้บาดเจ็บ 91 คน พบหลักฐานสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย สามารถควบคุมตัวได้แล้ว 2 ราย
วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมปาหนัน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา รองผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นายวรเชษฐ์ พรมโอภาฬ นายอำเภอสุคิริน และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้า ในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ลอบก่อเหตุระเบิดในพื้นที่อ.สุคิริน เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 91 ราย ว่า
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตาม สอบปากคำพยาน 100 ปาก และสืบสวนจากพยานหลักฐานที่พบ ในที่เกิดเหตุจนสามารถออกหมายจับได้ 3 ราย คือ 1.นายอุสมาน มูดอ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/3 ม.3 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่นั้นทราบว่าเป็นผู้ขับรถยนต์เก๋งแดวู สีเขียว มาจอดทิ้งไว้ จนเกิดเหตุระเบิดขึ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมตัว 2.นายมะรอเซะ ดือราแม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ม.5 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส
จากการสอบสวนทราบว่าเป็นคนร้ายที่นำรถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ ทำให้ระเบิดเกิดขึ้นในครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้แล้ว แต่นายมะรอเซะยังคงให้การปฏิเสธ 3. นายตูรีดี มะดง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302 ม.2 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
จากการสืบสวนเป็นผู้กดระเบิดให้ทำงานขึ้นทั้งในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้แล้วและนายตูรีดีรับสารภาพว่าเป็นผู้กดระเบิดในเหตุการณ์ครั้งนั้น ด้านนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่าการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่ขยายผลทางคดีให้ได้มากที่สุด
ส่วนกลุ่มผู้ร่วมขบวนการก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้เปลี่ยนแนวคิดเสียใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถูกปลูกฝังแนวคิดผิดๆ ทั้งหลักศาสนาและต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมขบวนการนั้นสามารถที่จะเข้าร่วมเพื่อกลับใจกับเจ้าหน้าที่ได้ทั้งในส่วนของนราสันติสุข ฉก.นราธิวาส และศูนย์สันติสุข กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า
ด้านนายตูรีดี มะดง หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวได้และรับสารภาพ กล่าวว่า ตนเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้ผู้ที่ร่วมขบวนการรายอื่นๆ เป็นอย่างที่ตนเองเป็น ซึ่งตนเองนั้นได้เข้าร่วมขบวนการมานานแล้ว โดยถูกปลูกฝังความคิดให้ทำร้ายเจ้าหน้าที่มาตลอด อีกทั้งเมื่อเข้ามาร่วมขบวนการแล้วจะถอนตัวออกเป็นเรื่องลำบากเพราะเป็นห่วงคนข้างหลังทั้งครอบครัวและญาติพี่น้อง จึงทำให้ตนเองลงมือทำเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้น
นายมะรอเซะ ดือราแม ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวได้อีก 1 ราย กล่าวว่า ตนเองยังคงปฏิเสธกับข้อกล่าวหาต่างๆ ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นยืนยันว่าเดินทางไปกรีดยางและไม่รับรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรแล้วขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาสามารถที่จะต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ได้
