กระบี่ - “พันธมิตรฯ กระบี่” ยึดแนวทางพันธมิตรฯ กลาง ต่อสู้ทางการเมือง พร้อมรับแนวคิดตั้งชมรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯ เพราะเชื่อว่าการต่อสู้กับกลุ่มทรราชคิดล้มล้างสถาบันคงจะยืดเยื้ออีกหลายรุ่น
นายจเร แก้วสม ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรกระบี่ (สองคาบสมุทร) กล่าวถึงการต่อสู้ทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดกระบี่ว่า ต่อจากนี้ไปหลังจากที่พันธมิตรฯกระบี่ได้ร่วมต่อสู้กันมายาวนานกับกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนกลาง เพื่อขับไล่รัฐบาลทรราช ที่พยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิด
กลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่ ก็คงยังยึดหลักการต่อสู้ตามแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยส่วนกลาง และจะร่วมต่อสู้ตลอดไป เพราะเชื่อว่าการต่อสู้จะต้องเกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะยังมีกลุ่ม ส.ส.บางคนที่แม้ว่าจะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไปแล้วก็ยังพยายามดิ้นรนรวมตัวกันจัดตั้งรัฐบาลขึ้นอีก เพื่อจุดประสงค์เดียวก็คือการช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตรงนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ยอมไม่ได้เด็ดขาด
ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ กระบี่ (สองคาบสมุทร) กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางที่แกนนำพันธมิตรฯ ส่วนกลางแนะนำให้มีการจัดตั้งชมรมขึ้นมาในพื้นที่ กลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯ เอง และจะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่เป็นจริงเพื่อเปิดเผยออกสู่สาธารณชน
สำหรับการตั้งชมรมจะไม่มีการแต่งตั้งประธานกลุ่ม โดยจะให้ทุกคนมีความเสมอภาคกันทั้งหมด มีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน โดยจะเชิญกลุ่มพันธมิตรฯที่อยู่ตามอำเภอต่างๆทั้ง 8 อำเภอ มาร่วมแสดงความคิดร่วมกันด้วย แต่ทั้งนี้ก็คงจะพูดคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง สำหรับสมาชิกที่เข้าร่วมลงชื่อกับกลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่ (สองคาบสมุทร) แล้วก่อนนี้มีประมาณ 2 ,000 คน ที่พร้อมจะร่วมกันสร้างการเมืองใหม่
“ส่วนแนวทางอื่นๆ เมื่อจัดตั้งชมรมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ก็คงจะมีการจัดทำหนังสือบันทึก รวบรวมแนวทางการต่อสู้ เก็บไว้ เพื่อหากว่าวันข้างหน้ากลุ่มเยาวชนที่เติบใหญ่ขึ้นมาจะได้ศึกษาเป็นแนวทางต่อสู้ต่อไป เพราะเชื่อว่าการต่อสู้เพื่อปกปักรักษา สถาบันสูงสุด ทั้ง 3 สถาบันของชาติ ก็คงจะไม่จบสิ้นในรุ่นนี้อย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าผู้ที่พยายามที่จะทำลายสถาบันดังกล่าวจะยังคงมีต่อไป นอกจากนี้หากว่าเป็นไปได้ก็จะเสนอผ่านไปยังสถานศึกษาต่างๆ ให้บรรจุหลักสูตรที่เน้นจริยธรรม ให้แก่เยาวชนมากขึ้น เพราะเชื่อว่าการปลูกฝังตั้งแต่เล็ก จะช่วยให้เยาวชนเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ซึ่งต่างกับปัจจุบันที่หลักสูตรเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก จนบางครั้งผิดวัตถุประสงค์ของการศึกษา”
นายจเร แก้วสม ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรกระบี่ (สองคาบสมุทร) กล่าวถึงการต่อสู้ทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดกระบี่ว่า ต่อจากนี้ไปหลังจากที่พันธมิตรฯกระบี่ได้ร่วมต่อสู้กันมายาวนานกับกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนกลาง เพื่อขับไล่รัฐบาลทรราช ที่พยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิด
กลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่ ก็คงยังยึดหลักการต่อสู้ตามแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยส่วนกลาง และจะร่วมต่อสู้ตลอดไป เพราะเชื่อว่าการต่อสู้จะต้องเกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะยังมีกลุ่ม ส.ส.บางคนที่แม้ว่าจะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไปแล้วก็ยังพยายามดิ้นรนรวมตัวกันจัดตั้งรัฐบาลขึ้นอีก เพื่อจุดประสงค์เดียวก็คือการช่วยเหลือทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตรงนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ยอมไม่ได้เด็ดขาด
ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ กระบี่ (สองคาบสมุทร) กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางที่แกนนำพันธมิตรฯ ส่วนกลางแนะนำให้มีการจัดตั้งชมรมขึ้นมาในพื้นที่ กลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯ เอง และจะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่เป็นจริงเพื่อเปิดเผยออกสู่สาธารณชน
สำหรับการตั้งชมรมจะไม่มีการแต่งตั้งประธานกลุ่ม โดยจะให้ทุกคนมีความเสมอภาคกันทั้งหมด มีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน โดยจะเชิญกลุ่มพันธมิตรฯที่อยู่ตามอำเภอต่างๆทั้ง 8 อำเภอ มาร่วมแสดงความคิดร่วมกันด้วย แต่ทั้งนี้ก็คงจะพูดคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง สำหรับสมาชิกที่เข้าร่วมลงชื่อกับกลุ่มพันธมิตรฯ กระบี่ (สองคาบสมุทร) แล้วก่อนนี้มีประมาณ 2 ,000 คน ที่พร้อมจะร่วมกันสร้างการเมืองใหม่
“ส่วนแนวทางอื่นๆ เมื่อจัดตั้งชมรมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ก็คงจะมีการจัดทำหนังสือบันทึก รวบรวมแนวทางการต่อสู้ เก็บไว้ เพื่อหากว่าวันข้างหน้ากลุ่มเยาวชนที่เติบใหญ่ขึ้นมาจะได้ศึกษาเป็นแนวทางต่อสู้ต่อไป เพราะเชื่อว่าการต่อสู้เพื่อปกปักรักษา สถาบันสูงสุด ทั้ง 3 สถาบันของชาติ ก็คงจะไม่จบสิ้นในรุ่นนี้อย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าผู้ที่พยายามที่จะทำลายสถาบันดังกล่าวจะยังคงมีต่อไป นอกจากนี้หากว่าเป็นไปได้ก็จะเสนอผ่านไปยังสถานศึกษาต่างๆ ให้บรรจุหลักสูตรที่เน้นจริยธรรม ให้แก่เยาวชนมากขึ้น เพราะเชื่อว่าการปลูกฝังตั้งแต่เล็ก จะช่วยให้เยาวชนเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ซึ่งต่างกับปัจจุบันที่หลักสูตรเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก จนบางครั้งผิดวัตถุประสงค์ของการศึกษา”