“ทวี สุระบาล” รอดูท่าทีการเมืองระดับชาติ

ตรัง – นายทวี สุระบาล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ตรัง 6 สมัย ต้องรอดูกันต่อไป สำหรับการเมืองไทย เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น และขอเอาใจช่วยให้บ้านเมืองพ้นวิกฤต

วันนี้ (7 ธ.ค.) นายทวี สุระบาล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดตรัง 6 สมัย และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต พรรคเพื่อแผ่นดิน สมัยล่าสุด เมื่อปี 2550 กล่าวถึงท่าทีทางการเมืองของตนเองในขณะนี้ ว่า แม้จะยังคงสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่ก็มีความเป็นอิสระ และยังไปมาหาสู่กับเพื่อนฝูงทุกพรรคการเมือง ส่วนการตัดสินใจทางการเมืองในอนาคต หากจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเมืองในขณะนี้ ตนเองรู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะประชาชนมีการแบ่งฝ่าย แบ่งภาคกันอย่างชัดเจน ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติในสภาพปัจจุบัน ถ้าผู้คนเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายก็จะดี เพราะคนที่ตั้งใจเพื่อประเทศชาติ ก็จะทำได้อย่างเต็มที่ ส่วนสาเหตุของความแตกแยกของสังคมที่รุนแรงขณะนี้ ส่วนตัวมองว่า มาจากกลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายยุยงให้ถืออีกข้าง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็มีการจ้างวานให้ถืออีกข้าง ทั้งๆ ที่เดิมทั้ง 2 กลุ่มเป็นเพื่อนรักกัน แต่สุดท้ายมาแตกคอกันโดยไม่ทราบด้วยเรื่องอะไร

ดังนั้น ต่างฝ่ายต่างจึงประหัตประหารกัน และจะเข่นฆ่าให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ประชาชน และบ้านเมืองจึงอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แม้จะมีการออกมาบอกว่า ไม่ยุบสภา หรือไม่ทำรัฐประหาร แต่ตนเชื่อว่าในการรับประกันนั้น สามารถเกิดได้ทุกอย่าง จึงทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ และประเทศไทยขาดเอกภาพ จึงอยากจะให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติชาติ ในขณะที่ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งขณะนี้ทุกคนไม่เดือดร้อนอะไร เพราะสามารถเดินหน้าทำงานได้ ที่สำคัญก็คือ รัฐบาลชุดปัจจุบันได้จัดสรรเงินงบประมาณ ผ่านไปให้ ส.ส.ทุกคนเพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่ เฉลี่ยคนละ 60 ล้านบาท

โดยจัดสรรผ่านกรมการปกครองท้องถิ่น คนละ 25 ล้านบาท ผ่านกรมทางหลวงชนบท คนละ 14 ล้านบาท ผ่านกรมทางหลวง คนละ 6 ล้านบาท และยังผ่านกรมอื่นๆ ในส่วนที่เหลืออีก ซึ่งงบประมาณจำนวนนี้ ส.ส.ทุกคนสามารถเสนอโครงการเพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่ได้ ซึ่งส่วนตัวก็มองว่า วิธีการนี้สำหรับ ส.ส.ที่คิดจะหาผลประโยชน์แล้ว ก็จะสามารถนำไปเข้าพกเข้าห่อส่วนตัวได้มากมาย

นอกจากนั้น ส.ส.ก็ยังสามารถนำไปจัดสรร เพื่อใช้พัฒนาเฉพาะพื้นที่หาเสียงของตนเองได้ แต่ทั้งนี้ผลงานดังกล่าวยังไม่เกิด เพราะต้องใช้เวลาอีก 3-4 เดือน จึงจะสามารถดำเนินโครงการต่างๆ ได้ ดังนั้น เชื่อว่าขณะนี้คงยังไม่มีการยุบสภาอย่างแน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวก็ยังตั้งใจที่จะลงสมัคร ส.ส.ต่อไป และต้องลงสมัครในระบบเขตด้วย

เพราะจะได้ใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชนมากที่สุด แต่จะตัดสินใจอะไร อย่างไร ก็ต้องดูกันต่อไป เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น ขอเอาใจช่วยให้บ้านเมืองพ้นวิกฤตเท่านั้น