นราธิวาส – กองกำลังผสมบุกค้นบ้านผู้ต้องสงสัย วางระเบิดร้านขายของชำ อ.จะแนะ พร้อมเรียกพยานบุคคลสอบผู้บาดเจ็บ ยันคนในพื้นที่ร่วมและเป็นกลุ่มเดียววางระเบิดโก-ลกและสุคิริน ส่วนผู้บาดเจ็บยังโคม่า 4 ราย และปลอดภัยแล้ว 8 ราย
วันนี้ (6 ธ.ค) เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 13 สภ.19 สถานีในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร ใช้กฎอัยการศึกในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยในแต่ละพื้นที่ เพื่อกดดันกลุ่มโจรใต้และสมาชิกแนวร่วมที่ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดร้านขายของชำของ น.ส.วิลาวัณย์ สติกรกูล เลขที่ 243/3 ม.1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตลาดสดดุซงญอ ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 5 ธ.ค. 51 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุและรู้เห็นบางส่วน ยังคงกบดานอยู่ที่บ้านพัก เพื่อคอยติดตามความเคลื่อนไหวการทำงานของเจ้าหน้าที่
โดยเฉพาะด้านคดีที่เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเกี่ยวโยงกลุ่มคนร้ายกลุ่มใด เพื่อที่จะแฝงตัวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ไปกบดานชั่วคราวที่บ้านของสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งผลการตรวจค้นในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น พ.ต.อ.ประสิทธิ์ศักดิ์ ศรีสุข ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาสและพนักงานสอบสวน เตรียมทยอยขอความร่วมมือพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มาให้รับปาก พร้อมทั้งเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 12 ราย ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
โดยเฉพาะ น.ส.วิลาวัณย์ เจ้าของร้านขายของชำในฐานะผู้เสียหายและผู้บาดเจ็บ ซึ่งถือว่าเป็นพยานสำคัญในคดีนี้ ที่ถูกกลุ่มคนร้าย ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน ได้วางแผนลวงเจ้าหน้าที่เข้าบุกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ น.ส.วิลาวัณย์ และอาศัยความชุมละมุนลอบนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้หน้าร้านก่อนที่จะหลบหนี เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า น.ส.วิลาวัณย์ คงจำใบหน้าและรูปพรรณสัณฐานของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้และเจ้าหน้าที่จะได้นำภาพถ่ายใบหน้าของกลุ่มบุคคลในทำเนียมประวัติอาชญากรรมที่ก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาให้ น.ส.วิลาวัณย์ ทำการชี้ภาพบุคคลต้องสงสัยเพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่กองวิทยาการทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงและตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ. จากหลักฐานสำคัญต่างๆ ที่เก็บรวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ ทางหลักนิติวิทยาศาสตร์แล้วเสร็จ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มบุคคลที่ก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ ว่าใครและกลุ่มบุคคลใดที่ร่วมก่อเหตุวางระเบิดในครั้ง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส เพื่อออกหมายจับต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นจากลักษณะการวางแผนก่อเหตุและหลักฐานบางส่วนที่เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ มีลักษณะคล้ายคลึงบ่งชี้ว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มีส่วนและเกี่ยวโยงกับลอบวางระเบิดที่หน้า สภ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์และ จยย.บอมบ์หน้าที่ว่าการอำเภอสุคิริน เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 51 ที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ทั้ง 12 รายนั้น ล่าสุดยังมีอาการหนักนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. 4 ราย ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด คือ 1. ส.ต.ต.พิสิทธิ์ รอดทอง 2. ส.ต.ต.กรุงไกร คงจันทร์ 3. นายรอฮิม กาพอและ ด.ช.สารีฟ มะรอดิง ส่วนอีก 8 ราย อาการปลอดภัยแล้ว ด้านศพของผู้เสียชีวิต 5 รายนั้น ทางญาติได้ทยอยเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาล เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในช่วงเย็นของวานนี้
วันนี้ (6 ธ.ค) เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 13 สภ.19 สถานีในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร ใช้กฎอัยการศึกในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยในแต่ละพื้นที่ เพื่อกดดันกลุ่มโจรใต้และสมาชิกแนวร่วมที่ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดร้านขายของชำของ น.ส.วิลาวัณย์ สติกรกูล เลขที่ 243/3 ม.1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตลาดสดดุซงญอ ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 5 ธ.ค. 51 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุและรู้เห็นบางส่วน ยังคงกบดานอยู่ที่บ้านพัก เพื่อคอยติดตามความเคลื่อนไหวการทำงานของเจ้าหน้าที่
โดยเฉพาะด้านคดีที่เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเกี่ยวโยงกลุ่มคนร้ายกลุ่มใด เพื่อที่จะแฝงตัวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ไปกบดานชั่วคราวที่บ้านของสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งผลการตรวจค้นในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น พ.ต.อ.ประสิทธิ์ศักดิ์ ศรีสุข ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาสและพนักงานสอบสวน เตรียมทยอยขอความร่วมมือพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มาให้รับปาก พร้อมทั้งเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 12 ราย ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
โดยเฉพาะ น.ส.วิลาวัณย์ เจ้าของร้านขายของชำในฐานะผู้เสียหายและผู้บาดเจ็บ ซึ่งถือว่าเป็นพยานสำคัญในคดีนี้ ที่ถูกกลุ่มคนร้าย ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน ได้วางแผนลวงเจ้าหน้าที่เข้าบุกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ น.ส.วิลาวัณย์ และอาศัยความชุมละมุนลอบนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้หน้าร้านก่อนที่จะหลบหนี เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า น.ส.วิลาวัณย์ คงจำใบหน้าและรูปพรรณสัณฐานของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้และเจ้าหน้าที่จะได้นำภาพถ่ายใบหน้าของกลุ่มบุคคลในทำเนียมประวัติอาชญากรรมที่ก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาให้ น.ส.วิลาวัณย์ ทำการชี้ภาพบุคคลต้องสงสัยเพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่กองวิทยาการทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงและตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ. จากหลักฐานสำคัญต่างๆ ที่เก็บรวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ ทางหลักนิติวิทยาศาสตร์แล้วเสร็จ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มบุคคลที่ก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ ว่าใครและกลุ่มบุคคลใดที่ร่วมก่อเหตุวางระเบิดในครั้ง เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาล จ.นราธิวาส เพื่อออกหมายจับต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นจากลักษณะการวางแผนก่อเหตุและหลักฐานบางส่วนที่เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ มีลักษณะคล้ายคลึงบ่งชี้ว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มีส่วนและเกี่ยวโยงกับลอบวางระเบิดที่หน้า สภ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์และ จยย.บอมบ์หน้าที่ว่าการอำเภอสุคิริน เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 51 ที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ทั้ง 12 รายนั้น ล่าสุดยังมีอาการหนักนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. 4 ราย ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด คือ 1. ส.ต.ต.พิสิทธิ์ รอดทอง 2. ส.ต.ต.กรุงไกร คงจันทร์ 3. นายรอฮิม กาพอและ ด.ช.สารีฟ มะรอดิง ส่วนอีก 8 ราย อาการปลอดภัยแล้ว ด้านศพของผู้เสียชีวิต 5 รายนั้น ทางญาติได้ทยอยเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาล เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในช่วงเย็นของวานนี้
