สุราษฎร์ธานี- “นายกสมาคมโรงแรม และการท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี” นำทีมเสนอปัญหาการท่องเที่ยวให้จังหวัดทราบ เพื่อเร่งหามาตรการแก้ไข และพัฒนาเป็นการด่วน ระบุโรงแรมในตัวเมืองปิดตัวแล้ว 2 แห่ง เหตุผลกระทบจากภาครัฐ ไม่ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวรองรับ
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายเชาวพงศ์ ฐิติสวัสดิ์ นายกสมาคมโรงแรม และการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำเสนอปัญหาการท่องเที่ยวต่อเวทีประชาคมยามเช้าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีขึ้นที่ห้องประชุมโรงแรมสยามธานีว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูง แต่ขาดการพัฒนา เพื่อรองรับการเจริญเติบโตด้านธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งได้ก่อให้เกิดปัญหาส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ทำให้โรงแรมอย่างน้อย 2 แห่ง ต้องปิดกิจการลงไปแล้ว
นายกสมาคมโรงแรม และการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า โครงการพัฒนาบึงขุนทะเลมีการศึกษาออกแบบพัฒนาไว้นานแล้วแต่ยังไม่ได้ลงมือดำเนินการ เช่นเดียวกับเขตอุทยานเขาท่าเพชร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุศรีสุราษฎร์ธานี และมีธรรมชาติที่สวยงามในบริเวณชานเมืองได้ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน่าเสียดาย
นอกจากนั้น วัดใหม่พัฒนาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ที่ต้องมีการจัดระเบียบ และพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อรับนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันทางจังหวัดต้องผลักดันโครงการถนนคนเดินไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเหมือนกับจังหวัดท่องเที่ยวในภูมิภาคอื่น
สำหรับปัญหาการท่องเที่ยวเร่งด่วนที่จังหวัดต้องเร่งหามาตรการแก้ไข คือ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ใช้บริการรถโดยสารไม่ประจำทาง ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการที่เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจ ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยว และพักผ่อนในตัวเมือง สมควรย้ายออกไปจัดตั้งในจุดที่เหมาะสมแทน
ด้าน นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การพัฒนาและแก้ไขปัญหานี้ภาคเอกชน และประชาชนต้องร่วมกันขับเคลื่อน หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำหน้าที่ให้การสนับสนุน เพื่อให้เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และต่อเนื่องส่งผลดีต่อการพัฒนาให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเมืองท่องเที่ยวของภาคใต้ตอนบน
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการพัฒนาบึงขุนทะเล ทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนโครงการนี้ พร้อมจัดให้มีเจ้าภาพร่วมดำเนินการ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานในส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดงบในเชิงบูรณาการมาดำเนินงานแล้ว
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายเชาวพงศ์ ฐิติสวัสดิ์ นายกสมาคมโรงแรม และการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำเสนอปัญหาการท่องเที่ยวต่อเวทีประชาคมยามเช้าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีขึ้นที่ห้องประชุมโรงแรมสยามธานีว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูง แต่ขาดการพัฒนา เพื่อรองรับการเจริญเติบโตด้านธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งได้ก่อให้เกิดปัญหาส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ทำให้โรงแรมอย่างน้อย 2 แห่ง ต้องปิดกิจการลงไปแล้ว
นายกสมาคมโรงแรม และการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า โครงการพัฒนาบึงขุนทะเลมีการศึกษาออกแบบพัฒนาไว้นานแล้วแต่ยังไม่ได้ลงมือดำเนินการ เช่นเดียวกับเขตอุทยานเขาท่าเพชร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุศรีสุราษฎร์ธานี และมีธรรมชาติที่สวยงามในบริเวณชานเมืองได้ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน่าเสียดาย
นอกจากนั้น วัดใหม่พัฒนาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ที่ต้องมีการจัดระเบียบ และพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อรับนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันทางจังหวัดต้องผลักดันโครงการถนนคนเดินไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเหมือนกับจังหวัดท่องเที่ยวในภูมิภาคอื่น
สำหรับปัญหาการท่องเที่ยวเร่งด่วนที่จังหวัดต้องเร่งหามาตรการแก้ไข คือ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ใช้บริการรถโดยสารไม่ประจำทาง ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการที่เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจ ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยว และพักผ่อนในตัวเมือง สมควรย้ายออกไปจัดตั้งในจุดที่เหมาะสมแทน
ด้าน นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การพัฒนาและแก้ไขปัญหานี้ภาคเอกชน และประชาชนต้องร่วมกันขับเคลื่อน หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำหน้าที่ให้การสนับสนุน เพื่อให้เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และต่อเนื่องส่งผลดีต่อการพัฒนาให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเมืองท่องเที่ยวของภาคใต้ตอนบน
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการพัฒนาบึงขุนทะเล ทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนโครงการนี้ พร้อมจัดให้มีเจ้าภาพร่วมดำเนินการ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานในส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดงบในเชิงบูรณาการมาดำเนินงานแล้ว
