ยะลา - ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา จี้นายกฯ แก้ไขผู้ที่จะไปแสวงบุญที่ยังตกค้างอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดอยู่ ทำให้ผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญไม่สามารถเดินทางไปได้
วันนี้ (27 พ.ย.) เวลา 09.00 น. นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำจังหวัดยะลา และ อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากกรณีที่มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทำการชุมนุมปิดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ แล้วทำให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 500 คนที่จะเดินทางไปแสวงบุญ(ประกอบพิธีฮัจญ์)ที่นครเม็กกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียไม่สามารถที่จะเดินทางไปได้ ซึ่งได้สร้างผลกระทบอย่างมาก
ทั้งนี้เพราะกว่าบางคนที่จะได้ไปทำฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ต้องใช้เวลาสะสมเงินทองเป็นเวลานาน บางคนต้องรอวีซ่าจากสถานทูตซาอุดีอาระเบีย เพราะถ้าเกินโควตาก็ต้องรอปีต่อไป ล้วนเป็นการถูกทดสอบ ความอดทน การเรียนรู้ ตระหนักในความศรัทธา ขณะที่บางคน ราบรื่นไม่มีปัญหาใด สุขภาพดี แจ่มใสตลอดการเดินทาง เป็นไปตามพึงประสงค์ของมุสลิมส่วนใหญ่
นายนิมุ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้ปลายเดือนพฤศจิกายน ผู้จะไปทำฮัจญ์ถูกทดสอบที่สนามบินสุวรรณภูมิอีก เขามีสิทธิที่จะไป มีเงินพอพียง มีหนังสือเดินทางและวีซ่าในเวลาจำกัด มีผู้นำมัคคุเทศก์พร้อมทุกประการ แต่ ไม่เป็นไปตามกำหนดการเดินทาง ทั้งที่ปลายทางพร้อมรับพวกเขา มีเครื่องบินที่ไม่สามารถบินออกจากสนามบิน และรอเวลาเครื่องบินลงมารับพวกเขา เครื่องบินลงมาไม่ได้
สำหรับเวลาของการทำพิธีฮัจญ์เหลือน้อยลง พิธีการสำคัญมีปีละ 1 ครั้ง ปีนี้ เวลาสำคัญคือต้นเดือนธันวาคม 2551 ซึ่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นการทดสอบมุสลิมกลุ่มนี้
เขาจะได้ไปทำฮัจญ์ดั่งใจหวังหรือไม่นั้น สำนักจุฬาราชมนตรี หรือคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย หรือส.ส.จังหวัด ที่ประชาชนเคยให้คะแนนเสียง หรือ ส.ว. สมาคม/มูลนิธิเพื่อมุสลิม หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงมหาดไทย และที่สำคัญมากที่สุด คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี อย่าละเลยหน้าที่นี้ด้วย ต้องช่วยให้ประชาชนชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 500 คนที่ติดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิไปประกอบพิธีฮัจญ์ให้ได้ ซึ่งในปีหน้าเป็นโควตาของคนอื่นๆ ที่รอคิวจำนวนมากแล้ว
