นครศรีธรรมราช - การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงถึงยังชีพ จากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ สู่ผู้ประสบภัยทั้ง 18 อำเภอ ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ยังน่าห่วง ผู้ว่าฯ จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รายงานสถานการณ์ทุก 3 ชั่วโมง ส่วนยอดความเสียหายพุ่งสูงถึงกว่า 216 ล้านบาท – ด้านรถไฟหยุดเดินรถชั่วคราว ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ราย
ที่.นครศรีธรรมราช สถาณการณ์น้ำท่วมล่าสุดวันนี้(26 พ.ย.) การช่วยเหลือในทุกระดับหลั่งไหลสู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยถึงขณะนี้ถุงยังชีพพระราชทาน ตลอดจนเครื่องอุปโภค และบริโภคจากภาคส่วนต่างๆ ได้ถูกลำเลียงเพื่อมอบแก่ผู้ประสบภัยแล้วกว่า 18,000 ชุด ทั้งจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์,มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก,มูลนิธิสายใยรักแห่งครอบครัว,หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 13 พัทลุง,สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และองค์กรปกครองท้องถิ่น สร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้เดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนการเข้าช่วยเหลือด้านสุขอนามัย ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประสานขอรับการสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ จากกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมอีก 20,000 ชุด เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย และไว้สำรองสำหรับการออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังน้ำลด
นางเพ็ญศรี แก้วคุ้มภัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางจังหวัดได้สนับสนุนเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 37 ลำ ในจำนวนนี้เป็นเรือท้องแบนที่ขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฏร์ธานี จำนวน 12 ลำและจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 43 จังหวัดพัทลุง อีก 2 ลำ
ขณะที่ตัวเลขความเสียหายพุ่งสูงถึงกว่า 216 ล้านบาท จากพื้นที่ที่ประสบภัยทั้งสิ้นรวม 18 อำเภอ 124 ตำบล 811 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 186,000 คน จาก 5,6452 ครัวเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ ขณะนี้ยังคงมีรายงานฝนตกในเกือบทุกพื้นที่น้ำในแหล่งน้ำต่างๆ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนและที่พักอาศัย เจ้าหน้าที่ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รวม 6 จุดเพื่อเร่งระบายน้ำในแหล่งน้ำสำคัญที่จะไหลผ่านตัวเมือง เพื่อป้องกันและลดปริมาณน้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ด้าน นายบรรจบ เพชรช่วย นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ได้กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวันในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและท่วมขังเส้นทางเดินรถไฟระหว่างสถานีบ้านโคกคราม - บ้านทุ่งหล่อ และที่บริเวณตำบลโพธิ์เสด็จ อ.เมือง รถไฟไม่สามารถให้บริการเดินรถได้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้(26 พ.ย.51) เนื่องจากมีระดับน้ำสูงประมาณ 10 เซนติเมตร จึงได้หยุดการเดินรถชั่วคราว
โดยให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ-กทม.ก็จะมีการขนถ่ายผู้โดยสารที่สถานีรถไฟอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยใช้รถเมล์ในการขนถ่ายผู้โดยสารมายังสถานีจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนผู้โดยสารจากนครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯก็เช่นเดียวกัน จะมีการขนถ่ายผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟทุ่งสง เพื่อเดินทางไปยังปลายทางคือกรุงเทพฯต่อไป ในเบื้องต้นยังไม่มีผู้โดยสารคืนตั๋วโดยสารที่มีการจองล่วงหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ได้มีน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ที่อยู่ในโซนลุ่มน้ำปากพนัง ไม่ว่าจะเป็น อ.ปากพนัง หัวไทร เชียรใหญ่ ชะอวด เฉลิมพระเกียรติ ได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยเฉพาะอำเภอชะอวดฟาร์มหมูได้รับความเสียหาย 10 แห่ง ปากพนังประชาชนได้รับความเดือดร้อน 16 ตำบล หัวไทร 11 ตำบล
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (26 พ.ย.) พ.ต.ท.วินิจฉัย ชมประคต สารวัตรเวร สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้มีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณสะพานห้วยข่อย ม.2 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พบศพผู้ตายชื่อ ด.ช.อัฎวุฒิ บุญวงศ์ อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 398/1 ม.2 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้ตายได้ไปเล่นน้ำที่สะพานดังกล่าวและพลัดตกลงไปติดอยู่ในโพงพาง ที่ใช้ดักปลาชาวบ้านช่วยเหลือไม่ทัน เพราะกระแสน้ำรุนแรงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนอีกรายทราบชื่อนายวันพร รักษาพล อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ออกจากบ้านไปธุระนอกบ้านแต่ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตรทำให้เดินพลาดท่าจมน้ำเสียชีวิตหน้าบ้านและในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่บริเวณบ้านบางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตอีก 1 รายแต่ยังไม่ราบชื่อ และในเบื้องต้นขณะนี้จากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในจังหวัดนครศรีธรรมราชทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ราย
ที่.นครศรีธรรมราช สถาณการณ์น้ำท่วมล่าสุดวันนี้(26 พ.ย.) การช่วยเหลือในทุกระดับหลั่งไหลสู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยถึงขณะนี้ถุงยังชีพพระราชทาน ตลอดจนเครื่องอุปโภค และบริโภคจากภาคส่วนต่างๆ ได้ถูกลำเลียงเพื่อมอบแก่ผู้ประสบภัยแล้วกว่า 18,000 ชุด ทั้งจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์,มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก,มูลนิธิสายใยรักแห่งครอบครัว,หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 13 พัทลุง,สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และองค์กรปกครองท้องถิ่น สร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้เดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนการเข้าช่วยเหลือด้านสุขอนามัย ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประสานขอรับการสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ จากกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมอีก 20,000 ชุด เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย และไว้สำรองสำหรับการออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังน้ำลด
นางเพ็ญศรี แก้วคุ้มภัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางจังหวัดได้สนับสนุนเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 37 ลำ ในจำนวนนี้เป็นเรือท้องแบนที่ขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฏร์ธานี จำนวน 12 ลำและจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 43 จังหวัดพัทลุง อีก 2 ลำ
ขณะที่ตัวเลขความเสียหายพุ่งสูงถึงกว่า 216 ล้านบาท จากพื้นที่ที่ประสบภัยทั้งสิ้นรวม 18 อำเภอ 124 ตำบล 811 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 186,000 คน จาก 5,6452 ครัวเรือน สิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ ขณะนี้ยังคงมีรายงานฝนตกในเกือบทุกพื้นที่น้ำในแหล่งน้ำต่างๆ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนและที่พักอาศัย เจ้าหน้าที่ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รวม 6 จุดเพื่อเร่งระบายน้ำในแหล่งน้ำสำคัญที่จะไหลผ่านตัวเมือง เพื่อป้องกันและลดปริมาณน้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ด้าน นายบรรจบ เพชรช่วย นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ได้กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวันในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและท่วมขังเส้นทางเดินรถไฟระหว่างสถานีบ้านโคกคราม - บ้านทุ่งหล่อ และที่บริเวณตำบลโพธิ์เสด็จ อ.เมือง รถไฟไม่สามารถให้บริการเดินรถได้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้(26 พ.ย.51) เนื่องจากมีระดับน้ำสูงประมาณ 10 เซนติเมตร จึงได้หยุดการเดินรถชั่วคราว
โดยให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ-กทม.ก็จะมีการขนถ่ายผู้โดยสารที่สถานีรถไฟอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยใช้รถเมล์ในการขนถ่ายผู้โดยสารมายังสถานีจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนผู้โดยสารจากนครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯก็เช่นเดียวกัน จะมีการขนถ่ายผู้โดยสารไปยังสถานีรถไฟทุ่งสง เพื่อเดินทางไปยังปลายทางคือกรุงเทพฯต่อไป ในเบื้องต้นยังไม่มีผู้โดยสารคืนตั๋วโดยสารที่มีการจองล่วงหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ได้มีน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ที่อยู่ในโซนลุ่มน้ำปากพนัง ไม่ว่าจะเป็น อ.ปากพนัง หัวไทร เชียรใหญ่ ชะอวด เฉลิมพระเกียรติ ได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยเฉพาะอำเภอชะอวดฟาร์มหมูได้รับความเสียหาย 10 แห่ง ปากพนังประชาชนได้รับความเดือดร้อน 16 ตำบล หัวไทร 11 ตำบล
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (26 พ.ย.) พ.ต.ท.วินิจฉัย ชมประคต สารวัตรเวร สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้มีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณสะพานห้วยข่อย ม.2 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พบศพผู้ตายชื่อ ด.ช.อัฎวุฒิ บุญวงศ์ อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 398/1 ม.2 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้ตายได้ไปเล่นน้ำที่สะพานดังกล่าวและพลัดตกลงไปติดอยู่ในโพงพาง ที่ใช้ดักปลาชาวบ้านช่วยเหลือไม่ทัน เพราะกระแสน้ำรุนแรงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนอีกรายทราบชื่อนายวันพร รักษาพล อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ออกจากบ้านไปธุระนอกบ้านแต่ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตรทำให้เดินพลาดท่าจมน้ำเสียชีวิตหน้าบ้านและในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่บริเวณบ้านบางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตอีก 1 รายแต่ยังไม่ราบชื่อ และในเบื้องต้นขณะนี้จากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในจังหวัดนครศรีธรรมราชทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ราย