นครศรีธรรมราช - หนุ่มอ้างตัวเป็นทหารพรานคลั่งสาดกระสุน 9 มม.บนโบกี้รถไฟ ขบวนสุไหงโกลก-กทม. สาว 19 นักเรียนพยาบาลดับ 1 ส่ง รพ.ตายเพิ่มอีก 1 ที่เหลือเจ็บระนาว
เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่รถไฟขบวนที่ 38 วิ่งระหว่างสุไหงโก-ลก - กรุงเทพมหานคร ขาขึ้นวิ่งอยู่ระหว่างสถานีพัทลุง-ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะถึงสถานีทุ่งสงได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงใส่กลุ่มผู้โดยสารอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟแจ้งว่า ขบวนรถกำลังจะเทียบชานชาลาชุมทางทุ่งสง ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนด้วย และสามารถคุมตัวคนร้ายบนขบวนรถไว้ได้แล้ว
หลังจากที่ขบวนรถเทียบชานชาลา เจ้าหน้าที่ได้รีบนำผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการสาหัสรวม 4 รายส่ง รพ.และยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีกนับ 10 ราย บางรายก็ไม่ประสงค์ไปรักษาตัวยัง รพ. ส่วนบนขบวนรถไฟนั้นพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บนรถไฟโบกี้ที่ 10 ชั้น 3 พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นัจจา สะนิ อายุ 19 ปี อยู่ 120/1 ม.8 ต.ป่ากอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลสระบุรี
ส่วนมือปืนหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปอยู่ในตู้เสบียง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำขบวนรถไฟระดมกำลังติดตามจับกุมตัวมือปืนเอาไว้ได้ ในเบื้องต้นคนร้ายอ้างว่าตัวเองเป็นทหารพรานที่ประจำการอยู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังคงให้การวกวนพูดจาไม่รู้เรื่อง
ส่วนผู้บาดเจ็บในขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อ หลังจากขบวนรถไฟเข้าจอดเทียบชานชลาของสถานสถานีรถไฟชุมทางทุ่งส่ง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟได้แจ้งประสานตำรวจ สภ.ทุ่งสง โดย พ.ต.ท.วรรณพ หนูเส้ง สวป. นำกำลังมารับตัวมือปืนไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ในขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิไต้เต๊กตึ้งและมูลนิธิประชาร่วมใจ ได้ลำเลี้ยงผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ทุ่งสง เป็นผู้ชายยังไม่ทราบชื่อ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนขบวนรถไฟหลังจากนำผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บลงจากขบวนรถหมดแล้วจึงเดินมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพต่อไปเนื่องจากหากหยุดขบวนนานจะส่งผลกระทบต่อตารางการเดินรถโดยรวม
พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ระทึกแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุชายมือปืนได้ลุกจากที่นั่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับผู้เสียชีวิต และเดินไปยังห้องน้ำ เมื่อกลับมาอีกครั้งได้ชักอาวุธปืนออกมายิงกระหน่ำหลายนัดซ้อนใส่ผู้โดยสารที่อยู่ภายในโบกี้โดยสารอย่างบ้าคลั่ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว จนกระสุนหมดแล้วจึงวิ่งหนีไปทางตู้เสบียงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟประจำขบวนรถได้วิ่งไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนสามารถคุมตัวไว้ได้ ซึ่งสังเกตเห็นว่าชายคนนี้อยู่ในสภาพเครียดตลอดการเดินทางจนมาเกิดเรื่องขึ้น
พ.ต.ท.วรรณพ หนูเส้ง สวป.สภ.ทุ่งสง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าขณะที่รถไฟวิ่งออกจากสถานีพัทลุงได้ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ โดยจะจอดสถานีต่อไปคือสถานีชุมทางทุ่งสง ขณะอยู่ระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์กับสถานีทุ่งสง ได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี เศษ ใช้อาวุธปืน 9 มม.รัวยิงใส่ผู้โดยสารในโบกี้ที่ 10 ซึ่งมีผู้โดยสารเกือบทั้งหมดเป็นมุสลิม โดยยิงอย่างบ้าคลั่งจนกระสุนหมดแมกกาซีน จากนั้นจึงวิ่งไปนั่งในตู้เสบียง ตำรวจรถไฟสามารถจับกุมเอาไว้ได้
“หลังจากเรารับตัวผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนของกลางมาสอบสวนที่โรงพัก จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมาและไม่มีหลักฐานใดๆ ในตัว อ้างว่าเป็นตำรวจบ้าง เป็นทหารพรานบ้าง ซึ่งดูลักษณะทั่วไปแล้วมีอาการเครียดอย่างหนัก ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของการก่อเหตุสยองขวัญในครั้งนี้ ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้สงบสติอารมณ์จากนั้นจะควบคุมตัวส่ง สภ.ร่อนพิบูลย์ เพราะทราบว่าจุดที่ก่อเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่รถไฟขบวนที่ 38 วิ่งระหว่างสุไหงโก-ลก - กรุงเทพมหานคร ขาขึ้นวิ่งอยู่ระหว่างสถานีพัทลุง-ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะถึงสถานีทุ่งสงได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงใส่กลุ่มผู้โดยสารอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟแจ้งว่า ขบวนรถกำลังจะเทียบชานชาลาชุมทางทุ่งสง ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนด้วย และสามารถคุมตัวคนร้ายบนขบวนรถไว้ได้แล้ว
หลังจากที่ขบวนรถเทียบชานชาลา เจ้าหน้าที่ได้รีบนำผู้บาดเจ็บอยู่ในอาการสาหัสรวม 4 รายส่ง รพ.และยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีกนับ 10 ราย บางรายก็ไม่ประสงค์ไปรักษาตัวยัง รพ. ส่วนบนขบวนรถไฟนั้นพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บนรถไฟโบกี้ที่ 10 ชั้น 3 พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นัจจา สะนิ อายุ 19 ปี อยู่ 120/1 ม.8 ต.ป่ากอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลสระบุรี
ส่วนมือปืนหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปอยู่ในตู้เสบียง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำขบวนรถไฟระดมกำลังติดตามจับกุมตัวมือปืนเอาไว้ได้ ในเบื้องต้นคนร้ายอ้างว่าตัวเองเป็นทหารพรานที่ประจำการอยู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังคงให้การวกวนพูดจาไม่รู้เรื่อง
ส่วนผู้บาดเจ็บในขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อ หลังจากขบวนรถไฟเข้าจอดเทียบชานชลาของสถานสถานีรถไฟชุมทางทุ่งส่ง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟได้แจ้งประสานตำรวจ สภ.ทุ่งสง โดย พ.ต.ท.วรรณพ หนูเส้ง สวป. นำกำลังมารับตัวมือปืนไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ในขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิไต้เต๊กตึ้งและมูลนิธิประชาร่วมใจ ได้ลำเลี้ยงผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ทุ่งสง เป็นผู้ชายยังไม่ทราบชื่อ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนขบวนรถไฟหลังจากนำผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บลงจากขบวนรถหมดแล้วจึงเดินมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพต่อไปเนื่องจากหากหยุดขบวนนานจะส่งผลกระทบต่อตารางการเดินรถโดยรวม
พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ระทึกแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุชายมือปืนได้ลุกจากที่นั่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับผู้เสียชีวิต และเดินไปยังห้องน้ำ เมื่อกลับมาอีกครั้งได้ชักอาวุธปืนออกมายิงกระหน่ำหลายนัดซ้อนใส่ผู้โดยสารที่อยู่ภายในโบกี้โดยสารอย่างบ้าคลั่ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว จนกระสุนหมดแล้วจึงวิ่งหนีไปทางตู้เสบียงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟประจำขบวนรถได้วิ่งไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนสามารถคุมตัวไว้ได้ ซึ่งสังเกตเห็นว่าชายคนนี้อยู่ในสภาพเครียดตลอดการเดินทางจนมาเกิดเรื่องขึ้น
พ.ต.ท.วรรณพ หนูเส้ง สวป.สภ.ทุ่งสง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าขณะที่รถไฟวิ่งออกจากสถานีพัทลุงได้ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ โดยจะจอดสถานีต่อไปคือสถานีชุมทางทุ่งสง ขณะอยู่ระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์กับสถานีทุ่งสง ได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี เศษ ใช้อาวุธปืน 9 มม.รัวยิงใส่ผู้โดยสารในโบกี้ที่ 10 ซึ่งมีผู้โดยสารเกือบทั้งหมดเป็นมุสลิม โดยยิงอย่างบ้าคลั่งจนกระสุนหมดแมกกาซีน จากนั้นจึงวิ่งไปนั่งในตู้เสบียง ตำรวจรถไฟสามารถจับกุมเอาไว้ได้
“หลังจากเรารับตัวผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนของกลางมาสอบสวนที่โรงพัก จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมาและไม่มีหลักฐานใดๆ ในตัว อ้างว่าเป็นตำรวจบ้าง เป็นทหารพรานบ้าง ซึ่งดูลักษณะทั่วไปแล้วมีอาการเครียดอย่างหนัก ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของการก่อเหตุสยองขวัญในครั้งนี้ ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้สงบสติอารมณ์จากนั้นจะควบคุมตัวส่ง สภ.ร่อนพิบูลย์ เพราะทราบว่าจุดที่ก่อเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”