ตรัง – ธุรกิจสอบขับรถยนต์ จ.ตรัง โตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่จบและมีใบอนุญาตขับขี่ทุกคน ได้เรียนรู้กฎจราจรครบถ้วนอย่างแท้จริง เน้นคุณภาพของผู้เรียน ปี 52 ตั้งเป้ามุ่งเปิดโรงเรียนสอนขับรถยนต์นอกระบบ
เนื่องจากความจำเป็นของการใช้รถยนต์ในปัจจุบัน จนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงทำให้มีการซื้อหารถมาขับขี่กันเป็นจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริงก็ยังมีประชาชนอีกไม่น้อย ที่ขับขี่รถโดยมิได้รู้จักกฎจราจรอย่างดีพอ หรือบางรายก็ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้อง จึงเป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในแต่ละปีจำนวนมาก ซึ่งหนทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุก็คือ การเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชน เกี่ยวกับการขับขี่รถที่ถูกต้องตามกฎจราจร
นายพิศาล วีรวรรณ ผู้จัดการ โรงเรียนท่ากลางสอนขับรถยนต์ เปิดเผยว่า โรงเรียนแห่งนี้ถือเป็น 1 ใน 7 แห่งของประเทศไทย ที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากกรมการขนส่งทางบก และในภาคใต้ มีแค่ 2 แห่งคือ จ.ตรัง กับนราธิวาส ซึ่งต่างไปจากโรงเรียนสอนขับรถแห่งอื่น ที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากกระทรวงศึกษาธิการ เพราะผู้ที่มาเรียนกับโรงเรียนท่ากลาง หลังจากจบหลักสูตรที่กำหนดไว้ 15 ชั่วโมง โดยเป็นภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมงแล้ว สามารถไปรับใบอนุญาตขับขี่กับสำนักงานขนส่งได้เลย
ทั้งนี้ เพราะโรงเรียนท่ากลางสอนขับรถ มีห้องเรียน และสนามเรียนที่ได้มาตรฐาน ส่วนครูฝึกทุกคนก็ผ่านการอบรมมาจากกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดตรัง มาสอบใบอนุญาตขับขี่ให้ถึงโรงเรียนแห่งนี้เลย ทำให้เกิดความสะดวกและช่วยลดความตื่นเต้น เพราะผู้สอบจะมีความคุ้นเคยกับสนามเรียนที่เคยขับขี่รถอยู่เป็นประจำ จึงส่งผลให้ธุรกิจสอนขับรถแห่งนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2545 เป็นต้นมา และขณะนี้มีธุรกิจสอนขับรถเกิดขึ้นในจังหวัดตรัง ถึง 4 แห่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ตลาดของโรงเรียนสอนขับรถยนต์ พบว่ายังมีช่องทางเจาะไปยังกลุ่มต่างๆ ได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน อายุตั้งแต่ 30-50 ปี ซึ่งซื้อรถคันแรก หรือคันที่ 2 รวมทั้งในกลุ่มวัยรุ่น ที่ต้องการมีใบอนุญาตขับขี่เพื่อไว้ใช้ในการสมัครงาน จึงมีผู้มาเรียนในช่วงปกติเดือนละ 30-40 คน แต่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงปิดเทอมเป็นเดือนละ 50-60 คน โดยตั้งเป้าว่าในต้นปี 2552 จะผลักดันให้โรงเรียนท่ากลางสอนขับรถยนต์ ออกนอกระบบ เพื่อให้สามารถออกใบอนุญาตขับขี่เองได้เลย
นอกจากนั้น ยังจะรับเปิดสอนขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วย เพราะมีลูกค้าอีกส่วนหนึ่งเรียกร้องเข้ามา แต่คงต้องดูความพร้อมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะขยายธุรกิจไปในทิศทางใด สิ่งที่ยังคงต้องเน้นเป็นพิเศษก็คือเรื่องคุณภาพ เพื่อให้ผู้ที่จบและมีใบอนุญาตขับขี่ทุกคน ได้เรียนรู้กฎจราจรครบถ้วนอย่างแท้จริง ซึ่งแม้ว่าการไปสอบกับทางสำนักงานขนส่งจะมีท่าบังคับเพียง 3 ท่า แต่โรงเรียนท่ากลางจะสอนลูกค้าให้จนครบทั้ง 10 ท่า พร้อมทั้งนำไปเรียนรู้บนสภาพถนนจริง หรือในย่านชุมชน เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด
เนื่องจากความจำเป็นของการใช้รถยนต์ในปัจจุบัน จนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงทำให้มีการซื้อหารถมาขับขี่กันเป็นจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริงก็ยังมีประชาชนอีกไม่น้อย ที่ขับขี่รถโดยมิได้รู้จักกฎจราจรอย่างดีพอ หรือบางรายก็ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้อง จึงเป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในแต่ละปีจำนวนมาก ซึ่งหนทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุก็คือ การเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชน เกี่ยวกับการขับขี่รถที่ถูกต้องตามกฎจราจร
นายพิศาล วีรวรรณ ผู้จัดการ โรงเรียนท่ากลางสอนขับรถยนต์ เปิดเผยว่า โรงเรียนแห่งนี้ถือเป็น 1 ใน 7 แห่งของประเทศไทย ที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากกรมการขนส่งทางบก และในภาคใต้ มีแค่ 2 แห่งคือ จ.ตรัง กับนราธิวาส ซึ่งต่างไปจากโรงเรียนสอนขับรถแห่งอื่น ที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากกระทรวงศึกษาธิการ เพราะผู้ที่มาเรียนกับโรงเรียนท่ากลาง หลังจากจบหลักสูตรที่กำหนดไว้ 15 ชั่วโมง โดยเป็นภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมงแล้ว สามารถไปรับใบอนุญาตขับขี่กับสำนักงานขนส่งได้เลย
ทั้งนี้ เพราะโรงเรียนท่ากลางสอนขับรถ มีห้องเรียน และสนามเรียนที่ได้มาตรฐาน ส่วนครูฝึกทุกคนก็ผ่านการอบรมมาจากกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดตรัง มาสอบใบอนุญาตขับขี่ให้ถึงโรงเรียนแห่งนี้เลย ทำให้เกิดความสะดวกและช่วยลดความตื่นเต้น เพราะผู้สอบจะมีความคุ้นเคยกับสนามเรียนที่เคยขับขี่รถอยู่เป็นประจำ จึงส่งผลให้ธุรกิจสอนขับรถแห่งนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2545 เป็นต้นมา และขณะนี้มีธุรกิจสอนขับรถเกิดขึ้นในจังหวัดตรัง ถึง 4 แห่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ตลาดของโรงเรียนสอนขับรถยนต์ พบว่ายังมีช่องทางเจาะไปยังกลุ่มต่างๆ ได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน อายุตั้งแต่ 30-50 ปี ซึ่งซื้อรถคันแรก หรือคันที่ 2 รวมทั้งในกลุ่มวัยรุ่น ที่ต้องการมีใบอนุญาตขับขี่เพื่อไว้ใช้ในการสมัครงาน จึงมีผู้มาเรียนในช่วงปกติเดือนละ 30-40 คน แต่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงปิดเทอมเป็นเดือนละ 50-60 คน โดยตั้งเป้าว่าในต้นปี 2552 จะผลักดันให้โรงเรียนท่ากลางสอนขับรถยนต์ ออกนอกระบบ เพื่อให้สามารถออกใบอนุญาตขับขี่เองได้เลย
นอกจากนั้น ยังจะรับเปิดสอนขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วย เพราะมีลูกค้าอีกส่วนหนึ่งเรียกร้องเข้ามา แต่คงต้องดูความพร้อมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะขยายธุรกิจไปในทิศทางใด สิ่งที่ยังคงต้องเน้นเป็นพิเศษก็คือเรื่องคุณภาพ เพื่อให้ผู้ที่จบและมีใบอนุญาตขับขี่ทุกคน ได้เรียนรู้กฎจราจรครบถ้วนอย่างแท้จริง ซึ่งแม้ว่าการไปสอบกับทางสำนักงานขนส่งจะมีท่าบังคับเพียง 3 ท่า แต่โรงเรียนท่ากลางจะสอนลูกค้าให้จนครบทั้ง 10 ท่า พร้อมทั้งนำไปเรียนรู้บนสภาพถนนจริง หรือในย่านชุมชน เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด