สุราษฎร์ธานี-สถานการณ์น้ำป่า และดินถล่ม เขตพื้นที่อำเภอวิภาวดี สุราษฎร์ธานี ยังคงวิกฤต เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งเดินเท้าเข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ยังติดอยู่ในที่เกิดเหตุกว่า 70 คน แต่เป็นไปอย่างยากลำบาก และอันตราย เนื่องจากฝนตกหนัก ถนนยุบ ดินถล่มอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาวันนี้ (25 พ.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้เร่งเดินเท้าเข้าพื้นที่ช่วยเหลือ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์น้ำป่า ดินถล่ม ถนนยุบตัว ออกจากพื้นที่บ้านทับบริษัท บ้านคลองมุย บ้านคลองชุน หมู่ 13 และชุมชนบ้านซอยมดคัน หมู่ 9 บ้านบางเมาะ ต.ตะกุกเหนือ และบ้านคลองปาว ม.11 ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี
กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้เข้าตรวจสอบค้นหาผู้ประสบภัยที่บ้านทับบริษัท บ้านคลองมุย ที่เป็นย่านชุมชนมีบ้านเรือนราษฎรอยู่กันอย่างแออัดกว่า 50 หลังคาเรือน พร้อมเปิดสัญญาณเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนที่ยังติดอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่เร่งด่วน เนื่องจากฝนยังตกหนัก สภาพภูเขาโดยรอบหมู่บ้านเป็นดินแดง ชุ่มน้ำเต็มที่ และพบมีรอยแยกของดินบนภูเขาจะถล่มลงมาทุกวินาที
จากการตรวจพื้นที่พบรถยนต์ รถจักรยานยนต์จำนวนมาก ถูกทิ้งอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากถนนถูกตัดขาด ชาวบ้านไม่สามารถนำรถทุกชนิดผ่านออกมาได้ และยังพบว่า แต่ละบ้านได้ทิ้งทรัพย์สินไว้ในบ้านทุกบ้าน แต่ยังให้สัตว์เลี้ยงเฝ้าบ้านเฝ้าป้องกันทรัพย์สิน รวมทั้งลิงกังตัวใหญ่ชื่อ “เจ้าเล็ก” ด้วย และอยู่ในสภาพอดอาหาร และยังพบสุนัขพื้นบ้านสีขาว 1 ตัว ถูกน้ำป่าพัดไปติดเกาะอยู่บนกลางกระแสน้ำที่เชียวกราก ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยได้
ด้าน นายสมพงศ์ เขาใข่แก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ยืนยันว่า ประชาชนในหมู่บ้านได้ออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงประชาชนจำนวนกว่า 50 คน ที่ไม่ต้องการอพยพออกจากพื้นที่ และขึ้นไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินของตนเองและพวก