สุราษฎร์ธานี-สถานการณ์ในหลายพื้นที่ของสุราษฎร์ธานี ยังทรงตัว หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการด่วนแล้ว โดยเฉพาะตำบลตะกุกใต้ สูญหาย 2 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า วันนี้ (22 พ.ย.) กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายวิภาวดี และหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ 46 พร้อมเครื่องจักกลหนัก เข้าทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่ม พื้นที่บ้านทับบริษัท หมู่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี แต่ยังไม่สามานำรถเข้าถึงพื้นที่ได้
เนื่องจากคอสะพานหลายช่วงถูกตัดขาด และมีดินโคลนถล่มลงปิดเส้นทาง ชาวบ้านในที่เกิดเหตุได้นำตัวนายอนุสร วีระศักดิ์ อายุ 26 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บขาหัก ออกจากที่เกิดเหตุส่งต่อเจ้าหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีได้แล้ว ส่วน น.ส.ศรีอุษา แก้วเนียม อายุ 22 ปี พร้อมด้วย ด.ช.กิตติพงษ์ วีระศักดิ์ อายุ 1 ขวบ ยังไม่พบ และยังไม่ทราบชะตากรรม
ส่วนที่บ้านปากกลาง หมู่ 3 ต.ตะกุกใต้ ระดับน้ำยังคงท่วมขังสูงกว่า 3 เมตร ราษฎรกว่า 400 ครัวเรือน ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ขณะที่ทหารจากหน่วยทหารพัฒนาได้เร่งอพยพประชาชนในหมู่ที่ 8 ต.ท่าแท ต.กาญจนดิษฐ์ กว่า 300 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร เช่นเดียวกับปริมาณน้ำที่ท่วมถนนสายสุราษฎร์ธานี–นครศรีธรรมราช ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 70 เซนติเมตร
ด้านเจ้าหน้าที่แขวงการสุราษฎร์ธานี ได้นำเครื่องจักกลเคลียร์เส้นทางถนนสายสุราษฎร์ธานี-พุนพินที่มีดินสไลด์ตัวลงเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร หลังสถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองกลับสู่ภาวะปกติ.
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า วันนี้ (22 พ.ย.) กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายวิภาวดี และหน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่ 46 พร้อมเครื่องจักกลหนัก เข้าทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่ม พื้นที่บ้านทับบริษัท หมู่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี แต่ยังไม่สามานำรถเข้าถึงพื้นที่ได้
เนื่องจากคอสะพานหลายช่วงถูกตัดขาด และมีดินโคลนถล่มลงปิดเส้นทาง ชาวบ้านในที่เกิดเหตุได้นำตัวนายอนุสร วีระศักดิ์ อายุ 26 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บขาหัก ออกจากที่เกิดเหตุส่งต่อเจ้าหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีได้แล้ว ส่วน น.ส.ศรีอุษา แก้วเนียม อายุ 22 ปี พร้อมด้วย ด.ช.กิตติพงษ์ วีระศักดิ์ อายุ 1 ขวบ ยังไม่พบ และยังไม่ทราบชะตากรรม
ส่วนที่บ้านปากกลาง หมู่ 3 ต.ตะกุกใต้ ระดับน้ำยังคงท่วมขังสูงกว่า 3 เมตร ราษฎรกว่า 400 ครัวเรือน ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ขณะที่ทหารจากหน่วยทหารพัฒนาได้เร่งอพยพประชาชนในหมู่ที่ 8 ต.ท่าแท ต.กาญจนดิษฐ์ กว่า 300 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร เช่นเดียวกับปริมาณน้ำที่ท่วมถนนสายสุราษฎร์ธานี–นครศรีธรรมราช ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 70 เซนติเมตร
ด้านเจ้าหน้าที่แขวงการสุราษฎร์ธานี ได้นำเครื่องจักกลเคลียร์เส้นทางถนนสายสุราษฎร์ธานี-พุนพินที่มีดินสไลด์ตัวลงเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร หลังสถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองกลับสู่ภาวะปกติ.