กระบี่ - ครม.ทุ่มงบกว่า 2,200 ล้านบาท เข้าแทรกแซง รับซื้อผลปาล์มเกษตรกร ราคา 3.50 บาท พร้อม รับซื้อน้ำมันจากโรงงานสกัด ในราคา 22.50 บาท แก้ปัญหาราคาตก
นายอรุณ ไม้ทิพย์ การค้าภายในจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ราคาผลปาล์มตกต่ำอย่างต่อเนื่องจากราคากิโลกรัมละ ประมาณ 5-6 บาท ลดเหลือกิโลกรัมละประมาณ 2.30 บาท ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่คุ้มทุน ซึ่งทางจังหวัดได้หาทางแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง
พร้อมนำเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรเสนอไปยังส่วนกลางและรัฐบาล โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 51 ทางกรมการค้าภายใน ได้ประชุมร่วมกับ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี และนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ ในฐานะคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ
การค้าภายในจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมได้มีการประชุม โดยมีนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ทำเนียบใหม่สนามบินดอนเมือง ซึ่งทางรองนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบและเข้าใจปัญหาต่างๆเกี่ยวกับปาล์มน้ำมันและเห็นด้วยในหลักการแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ ตามที่กรมการค้าภายในเสนอคือให้รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงตลาด โดยจะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัด ในราคากิโลกรัมละ 22.50 บาท และให้โรงงานสกัดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 3.50 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
“ที่ประชุมได้มีมติ ให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เมื่อวันพุธที่ 19 พ.ย.51 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง ครม.ได้มีการประชุมและมีมติ เข้าแทรกแซงการรับซื้อผลปาล์มตามที่กรมการค้าภายในเสนอ คือรับซื้อราคาผลปาล์ม กิโลกรัมละ 3.50 บาทและน้ำมันสกัดจากโรงงาน ในกิโลกรัมละ 22.50 บาท โดยใช้งบประมาณในการแทรกแซงเป็นเงินประมาณ 2,250 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินการ ตั้งแต่ พ.ย.51-ม.ค.52 โดยขั้นตอนต่อไปในวันเสาร์นี้ (22 พ.ย.) ก็จะเชิญโรงงานสกัด ที่อยู่ในจังหวัดกระบี่ 12 โรง เข้าทราบรายละเอียดร่วมโครงการ พร้อมกับโรงงานสกัดอื่นๆทั่วประเทศ ที่กรมการค้าภายใน ส่วนจะมีโรงงานใดสนใจเข้าร่วมโครงการหรือไม่คงจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ และก็จะเปิดรับซื้อได้ทันที คาดว่าไม่เกินอาทิตย์หน้า”
สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้ ต้องเป็นเกษตรกรรายย่อย ที่มีพื้นที่ปลูกปาล์ม ไม่เกิน 50 ไร่ หรือผลผลิตที่ขายต่อเดือน ไม่เกิน 12,500 กิโลกรัม ส่วน อคส.จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดที่เข้าร่วมโครงการในราคา 22.50 บาทและมีเงื่อนไขว่า น้ำมันที่รับซื้อจะต้องเป็นน้ำมันปาล์มที่ผลิตจากผลปาล์มที่ซื้อจากเกษตรกรในราคา กิโลกรัมละ 3.50 บาท โดยน้ำมันปาล์มที่รับซื้อ อคส.จะฝากเก็บกับโรงงานสกัด หรือถังเก็บของเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ และสำคัญที่สุดก่อนจะเริ่มโครงการจะต้องมีการตรวจสต๊อกก่อนทุกโรงงานเพื่อป้องกันการเอาน้ำมันราคาถูกมาขายแพง
นายอรุณ ไม้ทิพย์ การค้าภายในจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ราคาผลปาล์มตกต่ำอย่างต่อเนื่องจากราคากิโลกรัมละ ประมาณ 5-6 บาท ลดเหลือกิโลกรัมละประมาณ 2.30 บาท ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่คุ้มทุน ซึ่งทางจังหวัดได้หาทางแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง
พร้อมนำเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรเสนอไปยังส่วนกลางและรัฐบาล โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 51 ทางกรมการค้าภายใน ได้ประชุมร่วมกับ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี และนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ ในฐานะคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ
การค้าภายในจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมได้มีการประชุม โดยมีนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ทำเนียบใหม่สนามบินดอนเมือง ซึ่งทางรองนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบและเข้าใจปัญหาต่างๆเกี่ยวกับปาล์มน้ำมันและเห็นด้วยในหลักการแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ ตามที่กรมการค้าภายในเสนอคือให้รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงตลาด โดยจะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัด ในราคากิโลกรัมละ 22.50 บาท และให้โรงงานสกัดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 3.50 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
“ที่ประชุมได้มีมติ ให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เมื่อวันพุธที่ 19 พ.ย.51 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง ครม.ได้มีการประชุมและมีมติ เข้าแทรกแซงการรับซื้อผลปาล์มตามที่กรมการค้าภายในเสนอ คือรับซื้อราคาผลปาล์ม กิโลกรัมละ 3.50 บาทและน้ำมันสกัดจากโรงงาน ในกิโลกรัมละ 22.50 บาท โดยใช้งบประมาณในการแทรกแซงเป็นเงินประมาณ 2,250 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินการ ตั้งแต่ พ.ย.51-ม.ค.52 โดยขั้นตอนต่อไปในวันเสาร์นี้ (22 พ.ย.) ก็จะเชิญโรงงานสกัด ที่อยู่ในจังหวัดกระบี่ 12 โรง เข้าทราบรายละเอียดร่วมโครงการ พร้อมกับโรงงานสกัดอื่นๆทั่วประเทศ ที่กรมการค้าภายใน ส่วนจะมีโรงงานใดสนใจเข้าร่วมโครงการหรือไม่คงจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ และก็จะเปิดรับซื้อได้ทันที คาดว่าไม่เกินอาทิตย์หน้า”
สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้ ต้องเป็นเกษตรกรรายย่อย ที่มีพื้นที่ปลูกปาล์ม ไม่เกิน 50 ไร่ หรือผลผลิตที่ขายต่อเดือน ไม่เกิน 12,500 กิโลกรัม ส่วน อคส.จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดที่เข้าร่วมโครงการในราคา 22.50 บาทและมีเงื่อนไขว่า น้ำมันที่รับซื้อจะต้องเป็นน้ำมันปาล์มที่ผลิตจากผลปาล์มที่ซื้อจากเกษตรกรในราคา กิโลกรัมละ 3.50 บาท โดยน้ำมันปาล์มที่รับซื้อ อคส.จะฝากเก็บกับโรงงานสกัด หรือถังเก็บของเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ และสำคัญที่สุดก่อนจะเริ่มโครงการจะต้องมีการตรวจสต๊อกก่อนทุกโรงงานเพื่อป้องกันการเอาน้ำมันราคาถูกมาขายแพง
